มารู้จักผู้ช่วยในการขนย้ายสินค้าในโกดังกันเถอะ

หลังจากที่เราได้รู้จักอุปกรณ์ในการขนย้ายสินค้า เช่น พาเลท ภายในคลังสินค้า ไปแล้วนั้น
วันนี้ Terrestrial ขอเสนอบทความเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เราต้องใช้ ในการจัดส่งสินค้ากันบ้าง
จะมีอะไรบ้างนั้น… มาดูพร้อมกันเลยดีกว่า

เครื่องชั่งน้ำหนัก (Scale) 

แน่นอนว่าก่อนที่จะเราจะจัดส่งสินค้า เราจะต้องมีการชั่งน้ำหนักของสินค้าก่อน ว่าสินค้านั้นๆ มีน้ำหนักตามเกณฑ์ หรือหนักเกินไปหรือไม่ โดยจะมีเครื่องชั่งน้ำหนักหลายประเภท

เริ่มต้นกันที่เครื่องชั่งมาตรฐานแบบตั้งโต๊ะ ดังรูปด้านซ้าย

นับเป็นเครื่องชั่งที่คุ้นตา และพบเห็นบ่อย เหมาะสำหรับชั่งสิ่งของ วัตถุต่างๆในโรงงานหรือใช้ในครัวเรือน ขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก สามารถนำไปชั่งน็อต ตะปู เนื้อสัตว์ ชั่งผัก ผลไม้ ชั่งวัตถุดิบในการทำอาหาร หรือตามความต้องการของลูกค้า

ตามมาด้วยเครื่องชั่งมาตรฐานแบบตั้งพื้น ดังรูปด้านซ้าย

สำหรับเครื่องชั่งแบบวางพื้น Digital Scale Floor scale เหมาะสำหรับใช้ชั่งสิ่งของขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะขึ้นกว่าแบบตั้งโต๊ะ แต่เป็นการชั่งแบบหน่วยชิ้น ไม่ใช่แบบพาเลท หรือแบบลังขนาดใหญ่

นอกเหนือจากเครื่องชั่งพื้นฐาน 2 แบบด้านบนแล้ว ยังมีเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุก หรือในบางครั้งจะถูกเรียกว่า เครื่องชั่งน้ำหนักแบบเคลื่อนย้ายได้ ดังรูปด้านล่างนั่นเอง

เครื่องชั่งแบบนี้ จะมีข้อดีที่สะดวก และประหยัดเวลา ที่สำคัญคือ ช่วยผ่อนแรงในการทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถย้ายเครื่องชั่งไปที่ๆเหมาะสมได้ง่าย แล้วนำพาเลทไปวางเพื่อชั่งน้ำหนัก แม้ในขณะที่พาเลทยกสูง ก็ยังสามารถชั่งน้ำหนักได้

จะเหมาะสำหรับการชั่งน้ำหนักอัตโนมัติก่อนที่จะขนถ่ายและบรรทุกสินค้า ผลิตภัณฑ์นี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในด้าน
โลจิสติกส์ รถไฟ ขนส่ง อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน การประชุมเชิงปฏิบัติการ คลังสินค้า และโอกาสอื่น ๆ

และสุดท้าย เครื่องชั่งพาเลทแบบตั้งพื้น จะเหมาะสำหรับธุรกิจการจัดส่ง การรับสินค้า และธุรกิจสตาร์ทอัพ สำหรับชั่งน้ำหนักพาเลทในคลังสินค้า

อุปกรณ์ในการแพ็คสินค้า

ในการแพ็ค หรือ ห่อสินค้า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการป้องกันสินค้าจากการเสียหายระหว่างกระบวนการขนส่ง เคลื่อนย้าย ขนถ่าย ซึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันในเรื่องนี้ คือ “วัสดุกันกระแทก” ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่

• แผ่นกระดาษลูกฟูก ทำหน้าที่เป็นแผ่นรอง หรือแผ่นกั้น เพื่อเก็บสินค้าภายในบรรจุภัณฑ์ หรือทำหน้าที่เป็นตัวห่อหุ้มสินค้า
  ข้อดี
  – สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาจากเศษวัสดุเหลือหลังใช้งาน
  – สามารถแบ่งช่องในบรรจุภัณฑ์เป็นระเบียบเพื่อป้องกันการกระแทกซึ่งกันและกัน หรือลดการเคลื่อนที่ภายในกล่อง
  ข้อเสีย
  – ไม่คืนรูปกลับเป็นอย่างเดิมหลังถูกแรงกระทำ
  – ไม่ทนความชื้น อ่อนตัวลงเมื่อเจอความชื้นสูง
• โฟมพอลิสไตรีน (PS) มีลักษณะกึ่งแข็งสามารถขึ้นรูปทรงที่ซับซ้อนได้ ส่วนใหญ่ใช้กับอาหาร หรือพวกเครื่องแก้ว เซรามิก อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีความประณีต

ข้อดี
– ป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี
– ไม่ดูดซับความชื้น
– น้ำหนักเบา
ข้อเสีย
– มีขีดจำกัดในการคืนรูป ไม่เหมาะกับงานที่รับการกระแทกอย่างรุนแรงหลายๆ ครั้ง
– เกิดปัญหาเศษวัสดุเหลือหลังใช้งานเพราะสลายตัวยาก

• โฟมพอลิยูรีเทน (PU) การใช้งานโฟมชนิดนี้จะพบในการห่อสินค้าที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน, เครื่องมือมีราคาแพง หรือสินค้าที่มีขนาดรูปทรงเฉพาะมากๆ
  เป็นโฟมที่มีการคืนรูปดีมากทำให้เป็นวัสดุกันกระแทกที่ดี ไม่ดูดซับความชื้นในอากาศ
  
• โฟมพอลิเอทีลีน (PE) ตัวอย่างการใช้งาน เช่น แบบหนา จะใช้กับอุปกรณ์เครื่องใช้งานภายในบ้าน เครื่องมือต่างๆ หรือแบบชนิดบางนำมาใช้ห่อหุ้มสินค้า สาย ฉนวน พวกหัตถกรรมอุปกรณ์และเครื่องมือ
  
  ข้อดี
  – การคืนรูปดีหลังรับแรงกระแทก
  – น้ำหนักเบา
  – ทนทานต่อสารเคมี
  แผ่นพลาสติกอัดอากาศ มักใช้ในการห่อหุ้มสินค้าชิ้นเล็กๆ เช่น เซรามิก งานหัตถกรรม บางครั้งก็มีการใช้ห่อหุ้มภายนอกของอุปกรณ์ใช้งานภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น ซึ่งมีการขนส่งโดยแท่นรองรับสินค้า 
  
  ข้อดี
  – มีความเหนียว
  – สะอาด
  – ไม่เป็นตัวการทำให้เกิดการผุกร่อน
  – ไม่มีการดูดซับความชื้น ทนต่อแรงกระแทก
  – นำมาใช้งานได้ง่ายกับสินค้าที่มี รูปร่างและขนาดต่างๆ กัน
  ข้อเสีย
  – ไม่เหมาะกับสินค้าที่มีความอ่อนไหวต่อการสั่นสะเทือนฝอยไม้
       ความสามารถในการเป็นวัสดุกันกระแทก ขึ้นกับความหนาแน่นในการบรรจุและความชื้น โดยใช้ใส่ลงในช่องว่างของกล่องหรือลัง
  ในอดีตมีการใช้กันอย่างกว้างขวางกับสินค้าต่างๆ ตั้งแต่ผัก ผลไม้ จนกระทั่งสินค้าอุตสาหกรรม แต่ปัจจุบันไม่นิยม เนื่องจากการอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเมื่อใช้กับผักและผลไม้ ในขณะที่ความชื้นของฝอยไม้ ก่อให้เกิดการผุกร่อนกับสินค้าอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม ฝอยไม้มีลักษณะของความเป็นธรรมชาติ ทำให้ยังนิยมใช้กับสินค้าบางประเภทอยู่ เช่นของขวัญ หรือสินค้าที่แสดงถึงความมีคุณค่าสูง เช่น หินแกะสลัก หรืองานฝีมือพวกเซรามิก

• ฝอยกระดาษ – มีการใช้งานเช่นเดียวกับฝอยไม้ 
   ข้อดี
  – ราคาถูก
  – หาได้ง่าย

ข้อเสีย
– ดูดซับความชื้นในอากาศได้ง่าย
– มีการปนเปื้อนของฝุ่นละอองและไม่สะอาด
ในประเทศอุตสาหกรรมจะไม่นิยมใช้ โดยเฉพาะฝอยกระดาษที่ได้จากกระดาษที่ผ่านการพิมพ์มาก่อน

รู้มั้ยคะ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการแพ็คของ เป็นสิ่งที่เราเห็นกันบ่อยมาก และมักจะไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้มีความสำคัญอะไร…​ นั่นก็คือเจ้า Silica Gel หรือสารดูดความชื้น นั่นเอง

โดยมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่
1.  เม็ดสีขาวใส เป็นแบบไม่มีตัวชี้วัดความชื้น คือ ไม่มีการเปลี่ยนสภาพเพื่อบ่งบอกว่า ดูดความชื้นมามาก น้อยเท่าใด
2.  เม็ดสีน้ำเงินเข้มเป็นแบบมีตัวชี้วัดความชื้น  มีการเพิ่มสารชนิดพิเศษ มีลักษณะเป็นสีเข้าไป เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่า มีการดูดความชื้นปริมาณเท่าใดแล้ว โดยมีการเปลี่ยนสีเพื่อบ่งบอกถึงปริมาณความชื้นที่กักเก็บไว้ภายใน

ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบัน มีการผลิต Silica Gel แบบเม็ดสีส้ม ซึ่งผลิตและสกัดมาจากสารธรรมชาติ แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากราคาสูง

อุปกรณ์อื่นๆ ในการใช้สำหรับการแพ็คของ ก็คือ

กล่องพัสดุ หรือซองพัสดุ  ควรเลือกกล่องที่มีขนาดเหมาะสมกับพัสดุที่ต้องการจะส่ง อาจจะฟังดูเหมือนไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้วการเลือกกล่องที่เหมาะสม จะส่งผลดีอีกหลายปัจจัยเลย เช่น เรื่องของความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายของสินค้า จากการขยับไปมา แล้วกระทบกระแทก หรือแม้จะหาวัสดุกันกระแทก ก็จะอาจจะต้องเสียปริมาณที่มากเกินไป จนทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ

เทปกาว และ/หรือ เชือกมัด
อาจจะดูเป็นเรื่องทั่วไป ที่ไม่มีอะไรให้ระวังหรือละเลย หากแต่ถ้าเราปิดกล่องพัสดุด้วยเทปกาวไม่ดี อาจจะทำให้กล่องพัสดุเปิดและสินค้าในนั้นร่วงออกมา ดังนั้น อย่างน้อยเราควรปิดฝากล่องแล้วผนึกด้วยเทปกาวทั้ง 3 ด้าน แล้วมัดเชือกรอบกล่องให้เรียบร้อย ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุสินค้าตกหล่นระหว่างขนส่ง

ขอขอบคุณบทความความรู้เบื้องต้นจาก 
http://bit.ly/2CGMs7r
http://bit.ly/2EV1066
http://bit.ly/2RbzjHI