ประเภทแรก – ผ้าบาติก
ผ้าบาติกหรือผ้าปาเต๊ะ เป็นคำเรียกผ้าที่มีวิธีการทำโดยใช้เทียนปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสี และใช้สีระบายแต้มในส่วนที่ต้องการ โดยอาจจะผ่านขั้นตอนการย้อมสีแบบนี้นับสิบครั้ง นอกจากนั้นชนิดนี้ยังสามารถทำได้แบบง่ายๆโดยการเขียนเทียนหรือพิมเทียนแล้วนำไปย้อมสีที่ต้องการ
ลักษณะเด่นของผ้าบาติก – ความโดดเด่นของผ้าชนิดนี้อยู่ที่สีและลวดลายอันคมชัดของภาพ ซึ่งมันสามารถสะท้อนประวัติความเป็นมาของผ้า ท้องถิ่น วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของแหล่งผลิตผ้าชนิดนั้นๆได้อย่างชัดเจน มันจึงเป็นได้ทั้งงานหัตถกรรมตามท้องถิ่นและงานศิลปะที่ใช้ดินสอเขียนวาดลวดลายตามที่ผู้ผลิตต้องการแล้วใช้เทียนเขียนทับไปตามลวดลายที่ไม่ต้องการให้น้ำสีซึมผ่าน ทำให้เกิดการผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และที่สำคัญผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่มีลายไม่เหมือนกันตามการออกแบบของผู้ผลิต
จังหวัดที่มีโรงงานทำผ้าชนิดนี้ – เชียงใหม่ ลำพูน ร้อยเอ็ด ภาคใต้ ปัตตานี ภูเก็ต ยะลา ฯลฯ
ประเภทที่ 2 ผ้าไหมไทย
ผ้าไหมไทย เป็นผ้าที่สามารถพบเจอมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากผ้าไหมชนิดอื่นๆ ซึ่งมันจะมีแวววาวเป็นมันเลื่อม เนื้อผ้าฟูไม่เรียบ มีความอ่อนนุ่ม มีน้ำหนัก อาจะมีปุ่มหรือปมที่เกิดจากคุณภาพในกระบวนการผลิตของแต่ละที่ไม่เหมือนกันแต่จุดนี้ทำให้มันได้รับความนิยม (สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้าไหมได้ที่บทความเกี่ยวกับเส้นใยไหม Terrestrial : https://bit.ly/2DqsywB)
ในปัจจุบันการนำเข้าวัตถุดิบเส้นไหมจากต่างประเทศมีทั้งการนำเข้าแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ส่งผลให้เส้นไหมที่นำเข้ามานั้นมีทั้งคุณภาพตามมาตรฐานและต่ำกว่ามาตรฐานคนจึงมองผ้าไหมไทยโดยรวมว่าเป็นผ้าไหมที่ไม่มีคุณภาพ และไม่มั่นใจ แต่ถึงอย่างไรประเทศไทยยังมีการส่งออกผ้าไหมมากกว่า 600 ล้านบาทและมีตลาดหลักคือสหรัฐอเมริกา
จังหวัดที่มีโรงงานทำผ้าชนิดนี้ – ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน
ประเภทที่ 3 – ผ้าฝ้าย(Cotton)
ผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอน เป็นอีกหนึ่งชนิดผ้าที่สามารถหาได้ง่ายในประเทศไทยและมีผู้ผลิตจำนวนมากที่ผลิตผ้าฝ้ายออกมาเป็นแบรนด์ชั้นยอดของไทย และมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเช่นแบรนด์ FolkCharm ทีจังหวัดเลย (สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ : https://bit.ly/34qrYuG)
ซึ่งในประเทศไทยนั้นพันธุ์ฝ้ายมีหลายชนิด และมีฝ้ายพื้นเมืองอยู่ 2 สายพันธุ์ ซึ่งจะให้ปุยสีขาวอย่างที่เคยพบเห็นกับทั่วๆไปและมีอีกสายพันธุ์ที่ให้ปุยสีน้ำตาลอ่อนถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สีขี้ตุ่นหรือสีตุ่น หายากกว่าสีขาว และไม่ค่อยฟู เส้นใยสั้น มักถูกนำมาเป็นวัตถุดิบใรการทอผ้าด้วยมือแบบพื้นเมือง
จังหวัดที่มีโรงงานทำผ้าชนิดนี้ – ส่วนใหญ่จะพบการทอผ้าชนิดนี้จากทางภาคเหนือของไทย โดยมักจะเริ่มปลูกฝ้ายในเดือนพฤษภาคมและรอเก็บในเดือนพฤศจิกายน
ประเภทที่ 4 – ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
สำหรับ ผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่เป็นชนิดผ้าที่ถุกมนุษย์ผลิตและสังเคราะห์ขึ้นมา มันจึงเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมอีกประเภทหนึ่ง เป็นผ้าที่มีกระบวนการทางเคมี เป็นเส้นใยที่มีความเหนียวและจุดเด่นสำคัญของมันเลยคือสามารถนำไปผสมกับผ้าชนิดอื่นได้ มันจะสามารถทำให้ผ้าชนิดที่นำไปผสมมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นได้ ผู้ผลิตจึงนิยมใช้มันเพื่อเป็นส่วนผสมในการทอผ้ามากกว่า
ในประเทศไทยนั้นผ้าโพลีเอสเตอร์ถูกเรียกชื่อกันแตกต่างกันตามชนิดผิวสัมผัส เช่น ผ้า silk satin , Silk Italy , Silk Spain จึงทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดว่ามันเป็นผ้าไหมจากเส้นใยธรรมชาติแต่จริงๆแล้วผ้าโพลีเอสเตอร์มันถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เหมือนกับเส้นใยไหมจึงถูกเรียกเป็น Silk เหมือนกันนั่นเอง (สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้าโพลีเอสเตอร์ได้ที่บทความ : https://bit.ly/2OoHkus)
จังหวัดที่มีโรงงานทำผ้าชนิดนี้ – กรุงเทพ ชลบุรี
ประเภทที่ 5 ผ้าขาวม้า
เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วหากพูดถึง ผ้าขาวม้า เป็นอีกหนึ่งชนิดผ้าที่สามารถแสดงถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่อยู่กับคนไทยมาหลายยุคสมัย เกือบทุกๆท้องถิ่นต้องมีเป็นของตัวเอง อาจมองว่าเป็นผ้าประจำพื้นที่นั้นๆได้เลย จริงๆแล้วผ้าขาวม้าจะถูกทอขึ้นจาก ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ด้ายดิบหรือป่าน แล้วแต่พื้นที่การผลิต แต่ที่สำคัญที่สุดในการเป็นผ้าขาวม้าคือเป็นผ้าทอลายทางตรงและขวางตัดกันมีขนาดสี่เหลี่ยผืนผ้าพอเหมาะ
ผ้าขาวม้า สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายเราจะเห็นส่วนใหญ่ใช้ในการเช็ดตัวเนื่องจากมันมีคุณสมบัติใช้ยิ่งนานยิ่งนุ่ม ซับน้ำได้ดี แห้งเร็ว ทนทานนับปี ซึ่งก็จะแตกต่างกันตามระดับของผ้าที่นำมาทอ นอกจากนั้นมันยังถูกนำมาทำเป็นชุดไทยพระราชทานชุดคาดเอวอีกด้วย
จังหวัดที่มีโรงงานทำผ้าชนิดนี้ – ทั้ง 4 ภาคในประเทศไทยและมีลักษณะที่แตกต่างและโดดเด่นกันในแต่ละพื้นที่เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของความเป็นไทย
