มองอย่างไรให้รู้ ลวดลายแนว African Art

  • by

งานศิลปะถือเป็นการสร้างสรรค์ของฝีมือมนุษย์ ผ่านความรู้สึก เพื่อสื่อสาร สื่ออารมณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน ในบทความนี้จะพูดถึง African Art ซึ่งก่อนเริ่มเรามาทำความรู้จักกันก่อน ศิลปะแอฟริกาเป็นศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในโลกโดยถูกค้นพบในถ้ำของแอฟริกาใต้ ภาพวาดของพรานป่า ภาพการล่าสัตว์ การสร้างแหล่งที่อยู่ที่ถูกจารึกบนหิน ซึ่งภาพส่วนใหญ่ที่เราเห็นจะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนในแอฟริกา เพราะเดิมทีนักล่าชอบมาอาศัยอยู่ในถ้ำ

แต่ศิลปะเหล่านี้มักจะไม่รวมถึงศิลปะของพื้นที่แอฟริกาเหนือตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีที่ยาวนาน เป็นเวลากว่าหนึ่งพันปีและได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะ Berber หรืออิสลาม





ส่วนสีที่ใช้ในสมัยนั้นอาจมาจากดิน สีของพืช หรืออาจมาจากแมลงด้วย โดยสีที่มักเห็นก็จะเป็น สีแดงขุ่น สีขาว สีเทา ที่ดำ และสีโทนอุ่น(ตั้งแต่แดงไปเหลือง)

อย่างไรก็ตามในบทความนี้ไม่ได้จะพูดเกี่ยวกับประวัติหรือเนื้อหาที่ยืดยาวเกี่ยวกับที่มา แต่จะพาทุกคนมาสังเกตลักษณะเด่นของศิลปะแนวนี้ ที่ทั้งในอดีตถูกจารึกบนหินสู่ศิลปะที่ปรากฏเป็นภาพหรือเสื้อผ้าในปัจจุบัน

รูปแบบของศิลปะแอฟริกา หากสังเกตเราจะเห็นจุดเด่นของมันเราจะมองเห็น pattern ของมัน โดยความจริงแล้วแอฟริกามีลวดลายที่ค่อนข้างมาก แต่เราจะเห็นรูปทรง สีของพื้นผิว และเส้นที่ใช้ซ้ำกัน

โดยสามารถสังเกตได้ตามบ้าน แผงขายของ ดูตะกร้าสานที่ผู้หญิงถือไว้บนหัว สังเกตได้จากผ้าพิมพ์ลายหรือผ้าทอย้อมสีสดใสที่ใช้นุ่งห่ม พูดง่าย ๆ ก็คือแรงบันดาลใจของลวดลายต่าง ๆ มักออกมาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะลายเปลือกหอย เงาของใบไม้ พื้นดินที่เป็นคลื่น

หากสังเกตทรงผมเราจะเห็นถึงการถักแบบมีรูปแบบซ้ำของมัน แต่หากมองให้ลึกซึ้งเข้าไปเหมือนพวกเธอใช้ลวดลายของพื้นทรายมาเป็นแบบ?

texture sands

ลักษณะลายเส้นที่ปรากฏบนพื้นทรายมีรูปแบบและเป็นเกลียว

อีกทั้งยังมีตัวอย่างอื่น ๆ อีกด้วยที่สามารถโชว์ว่าสิ่งทอ หรือของต่าง ๆ มักได้รับอิทธิพลมากจากธรรมชาติ

รูปทรงและลายแผ่นรองหรือพัดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้ง่ายเพราะมันคล้ายกับเงาของใบไม้ที่ปรากฏบนพื้น

หรือจะตะกร้าทุตซี ที่มีรูปแบบลวดลายปรากฏบนนั้นมีความซ้ำกันและรูปทรงคล้ายปลายใบไม้ของต้นปาล์ม

จากตัวอย่างข้างต้นเราก็จะสามารถสังเกตรูปแบบของลวดลายทั่วไปได้แล้ว (ซึ่งแต่ละลวดลายที่ปรากฏออกมาจะมีความหมายแฝงเสมอ) :

มักใช้รูปทรงเรขาคณิตและเส้นขอบแบบซ้ำๆ

รูปแบบซิกแซกคู่ขนาด ซึ่งในรูปแบบเหล่านี้มักแฝงความหมายเข้าไปด้วย โดยลวดลายนี้จะแสดงถึงเส้นทางของบรรพบุรุษ แสดงถึงความจริงที่ว่าไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่ตรงไปตรงมาและมีความยากเสมอ

สามเหลี่ยมสีดำและสีขาว ดังนั้นเมื่อรวมกันเป็นสี่เหลี่ยมก็จะเป็นตัวแทนของการแยกความรู้และความไม่รู้ สีขาวหมายถึงจุดเริ่มต้นของกระบวนการเรียนรู้และสีดำการสะสมภูมิปัญญา

Adinkra robes, Ghana
ผู้ชายสวมผ้าคลุม Adinkra ในกานา ปี 1973

ตัวอย่างการใช้ลวดลายและตราสัญลักษณ์อย่างจริงจังโดยชนเผ่า Ashanti ของกานาและ Gyaman แห่ง Cote D’Ivoire ซึ่งใช้ลวดลายกับผ้า

ความจริงแล้วลวดลายของเนื้อผ้ามีมากกว่า 300 แบบ เพราะการออกแบบชิ้นงานแต่ละงานไม่มีความสิ้นสุด

kuba raffia
Kuba Ntshak ochre raffia cloth
kente patterns
Kente patternst
kente quilt
Kente quilt

chevron great zimbabwe
โบราณสถานนครซิมบับเวโบราณ (Great Zimbabwe)  ,รูปแบบบั้งและซิกแซก

จะเห็นได้ว่าโบราณสถานในยุคก่อนจะในรูปแบบนี้ในการตกแต่งรั้ว ซึ่งเป็นการตกแต่งแบบแอฟริกัน อีกทั้งหากมองภาพข้างล่างคุณจะเห็นได้ว่ารูปทรงเรขาคณิตและสามเหลี่ยมมักถูกหยิบมาใช้บ่อยสำหรับการใช้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทาสี รอยบาก ขูด นูน พิมพ์ หรือ ปัก

adobe architecture
Adobe heritage architecture
adobe house
adobe house

frafra home exterior
Frafra home, exterior, red-white-black

การตกแต่งภายนอกของบ้าน Frafra ที่ใช้สีแดงและดำ อีกทั้งยังมีการตกแต่งผนังโดยการใช้รูปเรขาคณิต

painted wall, frafra home
Painted wall, Frafra home, N Ghana

รูปแบบการวาดและระบายบนผนัง

bold pattern zanzibar

อีกหนึ่งตัวอย่างเสื้อผ้าที่ผู้หญิงใส่ (จากภาพ) พวกเธอมักจะใช้ผ้าสีขาวสะอาด และเริ่มลงสีตกแต่งลวดลายเอง โดยใช้สีดำเป็นเส้นหนา ซึ่งอาจทำมาจากเปลือกไม้ ราก เขม่าดำ น้ำมันมะพร้าว โดยลวดลายที่ใช้วาดมักมาจากพืช เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือจะเลือกสร้างทรงเรขาคณิตขึ้นเองเพื่อให้เครื่องแต่งกายดูโดดเด่น

(ผ้าคลุม Kitenge ลวดลายตัวหนา ,แซนซิบาร์แคลิฟอร์เนีย ,1900 )

ตัวอย่างสุดท้ายคือหน้ากากแอฟริกันที่ถูกออกแบบให้มีความเฉพาะมีการทาสีประดับ แกะสลักในรูปแบบต่าง ๆ การเลือกใช้สัญลัษณ์ เพื่อแสดงออกว่าผู้สวมใส่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

Bwa plank masks
Bwa plank masks
elephant masks
Elephant maskers, 1970

ซึ่งมาร์กเหล่านี้เริ่มแรกที่ค้นพบมาจากการขุดพบหุ่นดินเผาที่มีหน้ากากเป็นส่วนประกอบสำคัญและในแบบต่าง ๆ และรูปร่างของหุ่นมักมีสไตล์เก๋ มีหลากหลายสไตล์

19th-20th century
หน้ากาก; ไม้ เติมสีด้วยดินขาว โดยชาว Punu จากกาบอง

จากบทความนี้เราจะเห็นได้ว่าการใช้รูปทรงเรขาคณิตและการใช้เส้นคดหรือแซิกแซกเป็นสิ่งสำคัญของศิลปะแนวแอฟริกัน แต่เรื่องสีก็มีความสำคัญเช่นกันเพราะหากสังเกตจะเห็นได้ว่าสีที่พวกเขาใช้นั้นจะเป็นโทนอบอุ่น ฉูดฉาด และมีสีดำมาประกอบด้วย

_____________________________

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.