เมื่อ “ มะม่วง ” ไม่ได้มีดีแค่ผลของมันอีกต่อไป..
ไม้มะม่วงแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ที่ได้รับความนิยมมากมาย ดังไปไกลถึงต่างประเทศ
ไม้มะม่วง เกิดจากการที่หาได้ง่าย เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว มีมากและราคาถูก แต่เป็นไม้เนื้ออ่อน อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากชาวสวนที่ปลูกต้นมะม่วงจำนวนมากเพือนำผลผลิตออกสู่ตลาดหลังจาก 2-4 ปีต้องถูกโค่นต้นทิ้ง เพือนำต้นใหม่มาปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ลำต้นเดิมที่โค่นทิ้งสามารถนำมาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้ แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพราะความพลิกผันในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เป็นแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ เพราะเป็นการนำไม้ที่เหลือทิ้งจากภาคเกษตร ใช้หลักการของการนำของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการสร้างมูลค่า
ไม้เนื้ออ่อนที่ครั้งหนึ่งเป็นแค่ฟืน.. หลังถูกโค่นต้นทิ้ง แต่วันนี้ กลายสภาพมาเป็นข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ที่มีราคา เป็นการประยุกต์ จากไม้กลมๆ ต่อ ตัด ปาด แกะ เป็นรูปร่างและลวดลายตามที่ต้องการ ตั้งแต่ที่เป็นท่อนไม้ มาจนถึงแจกัน เชิงเทียน โคมไฟ จาน ชาม จิปาถะ
ไม้มะม่วง เป็นไม้วิเศษ มีกาวในตัวเอง ที่สามารถเอาชิ้นส่วนมาติดกันได้ด้วยตัวของมันเอง ทำให้ได้ของใช้ที่มีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ที่จำเป็นต้องนำมาผ่านกรรมวิธีอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้ง จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้ดี ส่วนใหญ่จึงนิยมนำไม้ มาทำ เฟอร์นิเจอร์ เพราะเนื้ออ่อน สามารถ ไส ตัด ตกแต่งได้ง่า
