“Mood ของห้องสามารถสร้างอารมณ์ / ความรู้สึกความอบอุ่นได้ ปัจจัยหนึ่งนั้นได้มาจาก ‘แสงสว่าง’ เข้ามาเป็นตัวช่วยเพราะแสงสว่างเป็นตัวช่วยที่ดีในการสร้างบรรยากาศของห้อง ไม่ว่าจะการตกแต่งแบบไหน สไตล์ใดล้วนคงต้องให้ความสำคัญกับการประดับประดาแสงไฟ “
แสงสว่างตามอารมณ์ (Mood Lighting)
แสงสว่างประเภทนี้ ไม่มีการใช้เทคนิคการให้แสงพิเศษแต่อย่างใด แต่อาศัยการใช้สวิตซ์หรือตัวหรี่ไฟเพื่อสร้างบรรยากาศของแสงให้ได้ระดับความส่องสว่างตามการใช้งานที่ต้องการ
ผลวิจัยได้กล่าวว่า ปริมาณแสงที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มระดับอารมณ์และพลังงาน ในขณะที่แสงที่ไม่ดีจะก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าและข้อบกพร่องอื่น ๆ ในร่างกาย ปริมาณและประเภทของแสงมีผลกระทบโดยตรงต่อความอยากอาหารอารมณ์และแง่มุมอื่น ๆ ของชีวิตประจำวัน
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงโทนของแสงสี ที่ให้อารมณ์ในรูปแบบต่างๆ
อุณหภูมิสีของแสงก็มีผลต่อร่างกายมนุษย์ โดยทั่วไปจะปรากฎรูปเคลวิน (K) ยิ่งอุณหภูมิสีสูงขึ้นเท่าใดความสว่างก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
“โทนสีที่ยกมาพูดจะมี 2 โทนสี ที่เรามักพบเจอกันในชีวิตประจำวัน”
Yellow tones (แสงโทนสีเหลือง)
แสงที่อ่อนและอบอุ่นมีแนวโน้มที่จะทำให้สภาพแวดล้อมสงบลงและผู้คนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพและประสิทธิผล ฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับร้านอาหารพื้นที่พักผ่อนหรือห้องนอน
ส่วนใหญ่เราจะเลือกใช้แสงที่มีความสว่าง หรือ เท่ากับแสงเทียน 2000k เพราะแสงนี้สามารถกระตุ้นความสงบ และแสงสีแดงสีเหลืองอำพันหรือสีเหลืองที่อุณหภูมิประมาณ 3000k หรือน้อยกว่าเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและที่อยู่อาศัย
Cool, blue light (แสงฟ้าขาว)
แสงประดิษฐ์ในโทนสีฟ้าขาวและอุณหภูมิที่เย็นกว่าประมาณ 5,000-7,000kk ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังคิดว่าแสงสีน้ำเงินลดระดับเมลาโทนินของฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกง่วงซึ่งหมายความว่าคุณรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น

และยังพบอีกว่าการใช้งานในสภาพแวดล้อมการทำงานและการเรียนรู้ช่วยให้ผู้คนมีสมาธิและสนับสนุนพลังทางจิตใจ
แม้เราจะพบว่าการรับแสงในแต่ละแบบจะมีผลดีที่แตกต่างกัน แต่แสงสว่างเหล่านั้นก็สามารถสร้างอารมณ์ทางลบให้กับผู้คนได้เหมือนกัน อย่างเช่น การรับแสงสว่างที่จ้าเกินจำเป็นจะก่อให้เกิดความรำคาน และไม่พึงพอใจให้คนนั้นได้