East Asian art – ศิลปะเอเชียตะวันออก ที่มีหัวเรือเป็นศิลปะจีน

East Asian art - ศิลปะเอเชียตะวันออก ที่มีหัวเรือเป็นศิลปะจีน

หากพูดถึงศิลปะเอเชียตะวันออกต้องมุ่งไปศึกษาที่ศิลปะของจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และยังรวมถึงวัฒนธรรมของคาบสมุทรอินโดจีนอีกด้วย อารยธรรมเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันเป็นเวลาหลายพันปีด้วยภาษาเขียน ทางวัฒนธรรม จีนเป็นวัฒนธรรมโบราณที่โดดเด่นและเป็นเหมือนตัวแทนของอารยธรรมตะวันออก พวกเขามีศิลปะที่ถูกแสดงออกมาผ่านหลายๆงานเช่น การเขียนพู่กันจีน หยกจีน เครื่องปั้นดินเผา ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงงานศิลปะที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาในเอเชียตะวันออกสมัยอดีตและคุณจะได้รู้ว่างานเหล่านั้นมีหน้าตาและลักษณะเป็นไปในแนวทางใด

ศิลปะจีน – เป็นทัศนศิลป์ที่ต้องย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นเมื่อ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบด้วยเครื่องปั้นดินเผาและประติมากรรมที่ดูเรียบง่ายในช่วงแรกๆ ศิลปะจีนถูกจำแนกตามการสืบทอดการปกครองของราชวงศ์จักรพรรดิจีน ศิลปะโบราณของจีนประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในรูปของประติมากรรม และงานแกะสลักขนาดเล็กจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีกลุ่มประติมากรรมขนาดใหญ่ขึ้นมาและถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม

1.กลุ่มภาชนะที่ทำจากโลหะสำริด / ทองแดง : เป็นงานแกะสลักสำริดที่ใช้ในงานพิธีกรรม เช่น ภาชนะใส่อาหาร แก้วใส่เครื่องดื่ม กระถางธูป

2.กลุ่มรูปปั้นดินเผากองทัพทหาร : เป็นรูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีนเป็นกลุ่มหุ่นดินเผาที่ถูกค้นพบหลายพันชิ้นที่สุสานของจักรพรรดิ Terracotta Army

งานประติมากรรมจีนหลายๆชิ้นมีความเหมือนจริงพอสมควร ประติมากรรมจีนขนาดเล็กจำนวนมาก ตั้งแต่สมัยโบราณ ถูกทำขึ้นจากวัสดุหลายประเภทเช่น หิน ดิน กระดูก โลหะ ซึ่งวัสดุที่ถูกนำมาทำประติมากรรมของจีนและมีชื่อเสียงที่สุดคือหยก พวกเขาใช้ทำเครื่องประดับเป็นส่วนใหญ่

สำหรับงานประติมากรรมที่เป็นรูปแบบของจิตรกรรม ถูกพบส่วนใหญ่ตามผนังของสุสานช่วงสมัยโบราณตอนปลาย สุสานเหล่านั้นเป็นแหล่งสถาปัตยกรรมเก่าของจีนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เป็นอาคารขนาดมหึมา สร้างจากหินและอิฐแบบเรียบง่าย และมีสถาปัตยกรรมพระราชวังในอดีตแต่มันถูกสร้างด้วยไม้ เป็นเหตุผลหลักที่แทบไม่เหลือตัวอย่างสถาปัตยกรรมเหล่านั้นให้เห็นในปัจจุบัน

ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของงานจิตรกรรมจีนคือ การเน้นเส้นที่ชัดเจน บางภาพถูกวาดออกมากจากการใช้เส้นที่บางแต่คมชัด เป็นจุดสนใจหลักของงานศิลปะจีน พวกเขาใช้พู่กันจุ่มหมึกสีดำเช่นเดียวกันกับการเขียนอักษรจีนเอามาผสมผสานกับการวาดภาพได้อย่างลงตัวและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้ งานส่วนใหญ่จะถูกวาดลงบนม้วนกระดายหรือผ้าไหม

ภาพวาดจีนถูกแบ่งออกเป็นสามประเภท 1.ภาพวาดสไตล์  Figure painting เป็นการวาดภาพคนหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีตส่วนใหญ่จะเป็นฉากชีวิตในราชวัง

2.ภาพวาดสไตล์ Landscape ภาพวาดเชิงทิวทัศน์เป็นรูปแบบของงานศิลปะดั้งเดิม

ประเภทที่สาม ภาพวาดนกและดอกไม้ Bird-and-flower มันจะแตกต่างจากแบบ Landscape โดยจะเป็นภาพวาดระยะใกล้ แม่จะมีชื่อแบบนั้นแต่บางภาพก็ไม่ได้มีนกและดอกไม้

อาคารสไตล์พระราชวังจีน ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นห้องโถงสี่เหลี่ยม มีหลังคาเว้าสง่างามเป็นเอกลักษณ์มักมีชายคาหลายชั้น ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เซรามิกจีน – เซรามิกในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีรูปทรงเรียบง่าย มีสีเดียว และมีเซรามิกอีกประเภทที่มีชื่อเสียงเช่นกันคือเซรามิกราชวงศ์หมิง ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้าหรือสีขาว

Image : comuseum.com
Image : bukowskis.com

Buddhist Art ศิลปะจากศาสนาพุทธ – ในช่วงสมัยโบราณพระพุทธศาสนาเข้ามามีอิทธิพลในประเทศจีน และได้เจริญรุ่งเรืองในเอเชียตะวันออก มักมีงานศิลปะออกมาในรูปแบบของประติมากรรมที่เป็นงานแกะสลักหิน ผนังถ้ำหรือหน้าผา และภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัด มีลักษณะเน้นเส้นและความโค้งมนมากยิ่งขึ้นจากสไตล์ของ เอเชียใต้ และภาพที่เป็นภาพวาดคนจะมีการสวมเสื้อผ้าที่หนากว่าเอเชียใต้เนื่องจากสภาพอากาศ

ศิลปะญี่ปุ่น Japanese art – เป็นอีกหนึ่งอาณาจักรที่ได้รับอิทธิพลจากจีนเช่นเดียวกัน เช่นสถาปัตยกรรม จิตรกรรมฝาผนัง การปั้นสำริด ดินเหนียว แต่ถูกพัฒนาเป็นแบบเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น

ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ ภาพพิมพ์แกะไม้ (Woodcut) เป็นวิธีสร้างงานศิลปะที่ถูกเรียกว่าภาพอูกิโยะ เป็นการวาดตัวหนังสือหรือภาพบน “กระดาษวาชิ” (washi) และปิดบนแผ่นไม้ที่มักจะเป็นไม้เชอร์รี จากนั้นก็จะทำการแกะไม้ตามรอยที่วาดไว้ในรูป หลังจากนั้นก็ใช้ “บาเร็ง” (Baren) กดกระดาษให้ติดกับพิมพ์ที่ทาหมึกเพื่อให้ลวดลายหรือตัวหนังสือปรากฏบนกระดาษ 

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.