ศิลปะแห่งแถบทะเลอีเจียน ขุมทรัพย์อารยธรรมโลก

ศิลปะแห่งแถบทะเลอีเจียน ขุมทรัพย์อารยธรรมโลก

ในช่วงยุคที่อารยธรรมในอียิปต์และเมโสโปเตเมียกำลังเฟื่องฟู ก็มีอีก 2 วัฒนธรรมที่ได้เจริญเติบโตขึ้นเช่นกันในแถบทะเลอีเจียน อยู่บนเกาะครีตซึ่งถูกเรียกว่า ชาวมิโนอัน และอีกอารยธรรมที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่จองกรีซที่เมือง ไมซีนี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่ออารยธรรมกรีก-โรมัน

สำหรับอารยธรรมอีเจียน (Aegean) จะต้องกล่าวถึงชาวมิโนเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดในอารยธรรมสมัยนั้น พวกเขามีชีวิตที่ล้อมรอบด้วยทะเลสร้างวิถีชีวิตที่ดูหรูหรา ผ่อนคลายท่ามกลางพระราชวังที่ใหญ่โตหลงเหลือซากอารยธรรมมากให้เห็นถึงในปัจจุบันคือ พระราชวังคนอสซอส The Palace of Minos (1600 – 1400 BC) ซึ่งในสถานที่แห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนัง Frescoes ที่ใช้สีน้ำวาดบนผนังในขณะที่ปูนยังหมาดๆจากการก่อสร้าง มันทำให้ภาพวาดเป็นส่วนหนึ่งของผนังอย่างเนียนตา

วัฒนธรรมและศิลปะจองมิโนอันได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากจากการใช้ชีวิตใกล้ทะเล สำหรับภาพจิตรกรรมฝาผนังจะโดดเด่นเรื่องความสว่างและการใช้รูปทรงต่างๆมาประกอบกันเป็นภาพ ธีมโดยรวมมักจะเกี่ยวข้องกับทะเล และจะมีบางส่วนที่เป็นการแสดงกระบวนการและพิธีการต่างๆ

Image : https://pin.it/3AhC4E7

ภาพจากธรรมชาติที่มีนก สัตว์ทะเล เช่นปลาโลมา

สำหรับ งานประติมากรรม มิโนอัน ส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มีขนาดเล็กเป็นรูปพ่อค้า รูปผู้หญิงถืองูแกะสลักจากงาช้างประดับด้วยทองคำมีความสูงไม่เกิน 1 ฟุต

เครื่องปั้นดินเผา มักจะถูกสร้างขึ้นเป็นลวดลายของพืชและชีวิตสัตว์ ปลาหมึก แจกันในลักษณะของการปั้นวัตถุ 3 มิติ

ศิลปะอารยธรรมกรีก – โรมัน ประติมากรรมในยุคนี้ส่วนมากจะเป็นการปั้นหุ่นเปลือยขนาดเท่าตัวคนจริงที่กำลังแสดงท่าทางต่างๆ ที่ถูกทำจากหินอ่อนทั้งหมด

Image : metmuseum.org

ยุคหลังจากนั้นมาเกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำประติมากรรมซึ่งเรียกช่วงยุคนั้นว่ายุคคลาสสิก รูปปั้นบุคคลจะเป็นธรรมชาติและดูสมจริงมากยิ่งขึ้น เพิ่มเทคนิคการหล่อทองเหลืองสัมฤทธิ์เข้าไปกับหล่อ ประติมากรรมที่ยังคงเหลือมาให้เห็นในปัจจุบันนั้นมีน้อยเนื่องจากอาจสูญหายหรือถูกนำไปหลอมเป็นอาวุธหรือกระสุน

ประติมากรรมอีกชิ้นที่น่าสนใจคือชิ้นที่อยู่ในวิหารพาร์เธนอน ที่มีการปั้นรูปคนที่ถูกผ้าปกคลุมไว้ถูกออกแบบมาให้ดูเหมือนกำลังขยับอยู่ตลอดเวลาจากรอยผ้า

สำหรับ วิหารพาร์เธนอน (The Parthenon) เป็นอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดของชาวเอเธนส์ พวกเขาตกแต่งวิหารด้วยงานประติมากรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก เป็นอาคารที่เต็มไปด้วยรูปปั้นที่มีขนาดใหญ่ เป็นอาคารที่เป็นตัวแทนบ่งบอกลักษณะสิ่งก่อสร้างในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

รอบๆ กำแพงด้านในวิหารพาร์เธนอนยังมีงานประมากรรมในลักษณะของภาพนูนต่ำที่โดดเด่น

The Dying Gaul – งานประติมากรรมหินอ่อนอีกชิ้นของโรมัน ที่มีขนาดเท่ากับคนจริงๆแสดงให้เห็นกิริยาที่กำลังบาดเจ็บและจะตาย

Winged Victory of Samothrace

ภาพวาดบนแจกันมีด้ามจับ แจกันที่ทำจากดินเหนียวสีแดง วาดภาพแสดงสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในยุคสมัยนั้น

Image : getty.edu

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.