สไตล์ The bauhaus เบาเฮ้าส์ จริงๆแล้วมันเป็นชื่อของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เป็นสถาบันศิลปะและงานฝีมือสไตล์เยอรมัน มันถูกสร้างขึ้นหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปแล้ว 6 เดือน มันเป็นเหมือนกับช่วงฟองสบู่ที่ Bauhaus มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียง 14ปี ที่โรงเรียนเปิดแต่มันส่งอิทธิพลให้กับทั้งโลกหลังจากนั้นและยังเหลือมาถึงในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นกันในงานเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา
โรงเรียน Bauhaus ถูกก่อตั้งขึ้นในเมือง ไวมาร์ ประเทศเยอรมนีโดยสถาปนิกชาวเยอรมันชื่อ Walter Gropius ที่มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งคือสะท้อนความเป็นหนึ่งเดียวของศิลปะทุกแขนง ทั้งประติมากรรม จิตรกรรม และภาพวาด แต่สำหรับโรงเรียน Bauhaus ในตอนแรกไม่มีการเรียนการสอนแผนกสถาปัตยกรรม เน้นไปที่การสอนศาสตร์ของศิลปะอย่าง จิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปกรรม และกราฟฟิก และถูกพัฒนามาเป็นแนวทางการสอน รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “รูปแบบโมเดิร์น” ในปัจจุบัน
Bauhaus Style จะเป็นลักษณะของความเรียบง่าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา มักจะใช้สีพื้นฐานในการออกแบบชิ้นงาน เช่น สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน และใช้รูปทรงต่างๆเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่ถูกทำมาทับซ้อนให้มีมิติ ไม่มีความซับซ้อนมากนัก มักไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติมใดๆ ลดทอนองค์ประกอบต่างๆออกเหลือแต่ส่วนสำคัญของงาน งานลักษณะนี้จึงสามารถใช้ได้ทั่วทุกประเทศ ไม่มีปัญหาด้านวัฒนธรรม หากมีการใช้วัสดุใดๆมาทำชิ้นงาน ลักษณะของงานสไตล์นี้จะมุ่งเน้นไปที่การเปิดเผยวัสดุที่แท้จริง เช่น หากมีการออกแบบสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ก็จะโชว์จุดเด่นความเป็นลายไม้ที่สวยงามโดยไม่มีสิ่งใดมาปกปิด หรือห่อหุ้ม
ในปี 1925 โรงเรียน Bauhaus ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเสร็จสมบูรณ์และเป็นเหมือนจุดที่ประกาศให้ผู้คนได้รู้จักกับสไตล์นี้ Walter Gropius ได้ออกแบบอาคารที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียน มีลักษณะเด่นหลายด้าน เป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Bauhaus มีโครงสร้างเหล็กผนังม่านแก้ว เน้นไปที่การเปิดพื้นโล่งและใช้กระจกจำนวนมาก ซึ่งเป็นการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ดูโดดเด่นเป็นอย่างมากในสมัยนั้น เขาออกแบบพื้นที่ภายในและแบ่งส่วนพื้นที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด Bauhaus มีชื่อเสียงด้านความงามที่ผสมผสานระหว่างศิลปกรรมกับศิลปะและงานฝึมือเข้าด้วยกันอย่างสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมในสมัยนั้นยังเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับรูปลักษณ์ของบ้านในสมัยใหม่ ที่ยังคงเส้นสายที่ดูสะอาดตาและเน้นไปที่ฟังชั่นการใช้งานเป็นหลัก
นอกจากงานด้านภาพวาดและสถาปัตยกรรมแล้ว ศิลปินสไตล์นี้มักจะผลิตผลงานประติมากรรมในลักษณะของนามธรรมเป็นภาพตัดปะ โปสเตอร์สมัยใหม่ที่มีตัวอักษรหนาและเป็นบล็อกสีต่างๆ
ศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคของ Bauhaus
Paul Klee เข้ามาทำงานที่ Bauhaus และได้รับเสียงชื่นชมในฐานะผู้ก่อตั้งขบวนการ ลัทธิแสดงพลังอารมณ์ (Expressionist) ของเยอรมัน เข้าได้เริ่มหลักสูตรเกี่ยวกับทฤษฎีสีที่มุ่งเน้นไปที่การไล่เฉดของสี
Josef Albers ผู้ที่เป็นบุคคลสำคัญของ Bauhaus เขามีไอเดียทำหลักสูตรที่มุ่งเน้นไปที่การศึกษาวัสดุ และคุณสมบัติของมัน จึงเป็นเหตุผลที่สไตล์นี้มักจะให้ความสำคัญกับลักษณะของวัตถุที่นำมาใช้ เน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงระหว่างวัสดุการก่อสร้างกับการใช้งาน งานที่เป็นที่รู้จักของเขาคืองานที่เป็นภาพวาด คอลเลกชันที่มีสัดส่วนเดียวกันแตกต่างกันจากการเปลี่ยนแปลงเฉดสี และโทนของสีต่างๆ ชื่อผลงาน Homage to the Square
Wassily Kandinsky สอนทฤษฎีสี สนับสนุนให้นักเรียนเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม อ้างอิงหลักจิตวิทยาและการรับรู้ ผลงานที่มีชื่อเสียงคือ “Point and Line to Plane”
László Moholy-Nagy เขาเชื่อว่าศิลปะควรเป็นสิ่งที่ครอบคลุมทั้งด้าน งานฝีมือ ประติมากรรม ภาพวาด สถาปัตยกรรม โปสเตอร์ แต่เขาจะมุ่งเน้นไปที่ด้านการออกแบบโปสเตอร์และตัวอักษรมากกว่าในลักษณะการสร้างสรรค์ที่ทันสมัย เขามีความสนใจเรื่องอวกาศและการถ่ายภาพ งานส่วนใหญ่จึงได้รับอิทธิพลมาจากสองด้านนี้เป็นอย่างมาก
Herbert Bayer ปรมาจารย์ด้านการพิมพ์ตัวอักษรคนแรกของโรงเรียน Bauhaus เขาเป็นผู้คิดค้นฟอนต์สไตล์ Bauhaus ที่เรานำมาใช้ในแบรนด์ roro ของเรา
Bauhaus สร้างอิทธิพลที่สำคัญในด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ การวาดภาพ และการทอผ้า อื่นๆอีกมากมาย เบาเฮ้าส์ในปัจจุบันนี้ถึงแม้จะเหลือเพียงแบบจางๆที่ไม่แน่ใจว่าเป็นสไตล์ที่แท้จริงอยู่หรือไม่ หรือบางครั้งอาจเห็นเพียงทฤษฎี และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สไตล์อื่นๆออกมา เรื่องราวของเบาเฮ้าส์ถูกนำมาพูดถึงอยู่หลายครั้ง ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของโรงเรียนนี้ เป็นแนวการศึกษาที่ดีให้กับการศึกษาด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมให้กับคนรุ่นหลังๆ
