ตั้งแต่สถานการณ์โควิด 19 ระบาด หลายๆโรงงานไม่สามารถที่จะหยุดพักได้ จากการระบาดนี้ยังทำให้ธุรกิจรายใหม่และเก่าต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ธุรกิจทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของลูกค้า และกลยุทธ์การค้าขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการอยู่รอดของธุรกิจ
ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการกระตุ้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลังจากสถาการณ์โควิด ลองมาดูกัน
1. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์และช่องทางการขายของคุณ

จากสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมาทำให้ส่งผลกระทบมากมายต่อชีวิตประจำวันของเรา เมื่อมีข้อจำกัดมากขึ้น ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจรายย่อยที่ต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน การโฆษณา รวมไปถึงสินค้าของพวกเขา
มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องพิจารณา เมื่อต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งและวิธีที่คุณขายและสินค้าของคุณยังคงใช้ได้ผลหรือไม่?
มาตราการควบคุมยังคงเคร่งครัดเหมือนเดิม แต่ร้านอาหารและร้านค้าบางแห่งสามารถที่จะกลับมาเปิดอีกครั้งได้ คุณอาจจะตระหนักได้ว่าสินค้าที่คุณขายอาจจะไม่เป็นที่ต้องการในท้องตลาดอีกต่อไป
นี่คือโอกาสที่ดีในศึกษาช่องทางการขายออนไลน์ และพิจารณาสินค้าว่าเหมาะสมกับแบรนด์ของคุณหรือไม่เพราะปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่หันมาขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นโดยที่พวกเขาไม่ต้องเสี่ยงที่จะติดปัญหาโควิด
อีกช่องทางที่สามารถทำให้ลูกค้าคุณสบายใจขึ้นคือการให้ลูกค้ามารับสินค้าที่หน้าร้านหรือริมทางเพราะลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะไม่สบายใจหรือสะดวกที่จะรับสินค้าเดลิเวอรี่
การตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงนั้นอาจทำให้คุณมีวิจารณญาณในการตัดสินใจมากขึ้นเพื่อที่ดำเนินธุรกิจของคุณต่อไปในสถานการณ์ที่ไวรัสระบาดแบบนี้
2.ปรับปรุงและพัฒนาการบริการลูกค้าของคุณ (Customer Service)

ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ผู้บริโภคหันไปหาแบรนด์ที่พวกเขารู้จักและไว้วางใจมากขึ้น ฉะนั้นการรักษาการสื่อสารที่ดีกับลูกค้าของคุณเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจะไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากที่โรคระบาดหายไป
โปรดแจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบเกี่ยวกับสิ่งต่อไปนี้ :
- ผลิตภัณฑ์ที่พร้อมขาย
- ขอบเขตของการดำเนินการส่งมอบของคุณ คุณจัดไว้สำหรับตลาดใหม่หรือไม่? ตอนนี้คุณให้บริการสำหรับการรับสินค้าริมทาง(curbside pickup) หรือไม่
- ความล่าช้าในการผลิตสินค้าจะกลับสู่สภาพพร้อมใช้งานตามปกติ
- เวลาการจัดส่ง
- มาตราการความปลอดภัยสำหรับลูกค้าและพนักงาน
- หากคุณกำลังเพิ่มหรือลบผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ดังนั้น ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณรักษาฐานลูกค้าของคุณและอาจเข้าถึงลูกค้าใหม่ในระหว่างและหลังจากการแพร่ระบาดของโรค
- เวลาทำการบริการลูกค้าที่นานขึ้น: ลูกค้าอาจจะไม่สบายใจกับการมีปฎิสัมพันธ์แบบพบปะ ดังนั้นจึงมีวิธีการที่จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณพร้อมให้ความช่วยเหลือในทางอื่นๆ
- ใช้ช่องทางออนไลน์ในการสนับสนุนให้ได้มากที่สุด: ให้การสนับสนุนผ่านโซเซียลมีเดีย, Live Chat, Email และโทรศัพท์ ลูกค้าของคุณจะมีตัวเลือกมากมายในการเข้าถึงคุณ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มระดับความไว้วางใจในแบรนด์ของคุณได้
- สร้างแนวทางเพิ่มเติมสำหรับการสนับสนุนบริการของตัวเอง: รวบรวมฐานข้อมูลที่ครอบคลุม บทแนะนำ วิธีใช้ และอื่น ๆ เพื่อช่วยลูกค้า
- ซื่อตรงเกี่ยวกับระยะเวลาการรอและการจัดส่งที่คาดหวัง: นี่คือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง หากพนักงานของคุณถูกจำกัดหรือทำงานที่บ้าน เนื่องจากโรคระบาดใหญ่ ส่งผลทำให้เวลาในการจัดส่งทั่วโลกล่าช้า โปรดแจ้งลูกค้าให้ทราบการคุณจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร
3. เพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของคุณสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ร้านค้าอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนแรกของการระบาดใหญ่ และตลาดออนไลน์ก็มีผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หากคุณต้องการให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง วิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของคุณ
ในตอนนี้ การตรวจสอบอันดับ SEO ของคุณ มองหาอันดับคำสำคัญ(Keyword) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณอยู่อันดับใดในการค้นหา และรักษาปริมาณการเข้าชมนั้นไว้
สิ่งที่สำคัญที่คุณควรมุ่งเน้น :
- ความเร็วในการโหลดของหน้าเว็บ: สร้างประสบการณ์กับผู้ใช้ในราบรื่นที่สุด การรอให้หน้าเว็บไซต์โหลดทำให้ผู้ใช้งานมีโอกาสไปเลือกซื้อสินค้าจากที่อื่น นอกจากนี้การสร้างความเร็วของการโหลดหน้าช่วยให้คุณมีอันดับที่ดีขึ้นใน Google
- ใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาด แต่ให้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ: ผู้คนชอบที่จะได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใหญ่ และเขาพวกจะหันไปใช้เครื่องมือในการค้นหาเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นโปรดตรวจสอบว่าคุณใช้เนื้อหาดังกล่าวร่วมกับแบรนด์หรือไม่
- เน้นเฉพาะกลุ่มของคุณเมื่อสร้างเนื้อหา: ลูกค้าของคุณจะประทับใจกับข้อมูลที่คุณแบ่งบัน ลองนึกถึงเนื้อหาที่ยังมีความสำคัญต่อผู้ชม ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อหาตามกระแสนิยม และการสร้างความไว้วางใจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการรักษาลูกค้าประจำหรือดึงดูดลูกค้าใหม่
- เพิ่มประสิทธิภาพของการค้นหาเฉพาะที่(Local search) และทำให้รายชื่อ Google My Business ของคุณทันสมัยอยู่เสมอ: หากคุณกำลังลงทุนในร้านค้าจริง คุณต้องทำให้สามารถค้นหาง่าย แต่สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซคุณควรลงทุนในเรื่องการค้นหาเฉพาะที่(Local search) เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนเส้นทางมายังร้านค้าออนไลน์
- ติดตามการดำเนิน SEO ของคุณ: คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณต้องพัฒนาในส่วนไหนในเมื่อคุณไม่ได้ติดตามความคืบหน้า คุณสามารถใช้มาตรวัดเมตริก เช่น Google Analytics ในการตรวจสอบว่าประสิทธิภาพ SEO ของคุณว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณหรือไม่
4. การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด

แคมเปญทางการตลาดเข้ามามีบทบาทในการดำรงอยู่ของธุรกิจมากมายให้อยู่รอดในสถานกาณ์โควิด 19 นี้ คุณต้องมั่นใจว่าสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสารมันถูกต้องและแม่นยำ
- หากคุณจะแชร์เนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 โปรดมั่นใจว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือก่อน
- แสดงความเห็นอกเห็นใจกับลูกค้าและทำให้ลูกค้าทราบว่าคุณได้ตระหนักถึงความต้องการของพวกเขา
- โปรดระวังเรื่องการเข้าถึงประเด็นเรื่องโรคระบาดด้วยอารณ์ขันหรือไม่มีความเหมาะสมมากเกินไป เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกๆคนรวมถึงลูกค้าของคุณด้วย
- อย่าทำให้เนื้อหาของคุณดูน่าเบื่อ ซึ่งคุณต้องแยกให้ออกระหว่างคำอธิบายที่ดูจริงมากไปและดูจริงจังไม่เพียงพอให้ได้รับความน่าเชื่อถือ การสร้างรอยยิ้มจากผู้อ่านได้ก็ถือเป็นวิธีที่ดีในการเขียนคำบรรยาย
- ทำสำเนาในคำอธิบายผลิตภัณฑ์จองคุณเพื่อให้คุณสามารถวิเคราะห์อัตราการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าย้อนหลังได้หากมีการเปลี่ยนแปลง
ลงทุนด้านการตลาดในคอนเทนต์ประเภท B2B
มันขึ้นอยู่กับสายธุรกิจของคุณในการทำการตลาดด้วยเนื้อหา B2B เป็นทางเลือกที่ดี การเข้าถึงโซลูชั่นประเภทนี้ การให้ความสำคัญกับการเลือกผู้ขายและรายการขายของผู้บริโภคนั้นจำเป็นต้องรู้ ยกตัวอย่างเช่นโดยเฉลี่ยแล้วผู้ซื้อ B2B จะเลือกรายการผู้ขายหรือเปรียบเทียบรายการสินค้า 13 ขิ้นก่อนตัดสินใจซื้อ.
หากคุณเป็นธุรกิจ B2B Ecommerce การโพสต์คอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณไปได้ไกล
ใช้เนื้อหาประเภทต่างๆเพื่อสร้างกลุยทธ์ทางการตลาดที่แข็งแรง ทั้ง Blog, Video, Social-media หรือแม้กระทั้งเนื้อหาพิเศษที่ต้องสื่อสารออกมารูปแบบของการสัมมนาผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น
5.วางกลยุทธ์ระยะยาวหลังเกิดการระบาดครั้งใหญ่

แม้ว่าในอนาคตอาจจะเกิดอะไรขึ้นมันยังไม่แน่นอน และไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ แต่แบรนด์ต่าง ๆเริ่มวางแผนคาดการณ์เพื่อรองรับระบบเศรษฐกิจ แบรนด์ Kohl’s กำลังจะเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดออกกำลังกายใหม่เพราะเชื่อมั่นว่าแนวโน้มสุขภาพจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Best buy กำลังเปลี่ยนร้านค้าที่มีหน้าร้านเป็น Fulfillment centers สำหรับการขายออนไลน์ เป็นต้น
ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคและแนวโน้มการค้าขายสำคัญที่สุดเพราะคุณจะสามารถระบุแนวโน้มหลังจากการเกิดโรคระบาดและสามารถวางแผนการขายได้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถรับตัวได้เร็วที่สุด
โดยมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อให้ผลกระทบจาก Covid-19 ส่งผลกับธุรกิจของคุณน้อยที่สุด
- ประสิทธิภาพการทำงานโดยไม่ได้อยู่หน้างานของพนักงานของคุณเป็นอย่างไร และมีวิธีที่จะช่วยให้พนักงานเหล่านั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่?
- ประเทศของคุณมีแผนการรับมือกับการล็อคดาวน์อย่างไร?
- แบรนด์ของคุณตอบสนองกับ Covid 19 อย่างไร?
- คุณสามารถเลื่อนโครงการหรือแคมเปญของคุณออกไปได้หรือไม่และสามารถกลับมาทำต่อในภายหลังได้เช่นเดียวกันหรือไม่?
- คุณมีโครงการใหม่ ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือไม่?
เป็นความจริงที่ว่าสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นยังไม่แน่นอน และเราอาจไม่สามารถกำหนดกลยุทธ์ในระยะยยาวหลังเกิดโรคระบาดได้ แต่ในทางกลับกันแล้วสิ่งต่างที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็มักจะมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นและเมื่อเราระบุแนวโน้มนั้นได้มันก็คือกุญแจสำคัญของการสร้างกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายของคุณ
ทั้งนี้เป็นโอกาสที่จะตรวจสอบว่าสิ่งใดใช้ได้และสิ่งใดใช้ไม่ได้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ ช่วยให้คุณรู้ว่าทางเลือกใดให้ผลลัพธ์ได้ดีกว่าแต่อย่างลืมส่วนสำคัญคือการตอบสนองความต้องการของลูกค้า อัปเดตกลุยทธ์การตลาดและรวมถึงลงทุนเพิ่มในประสิทธิภาพของ SEO ในร้านค้าของคุณ
บทความจาก AMZ Advisers :

AMZ Advisers เป็นที่ปรึกษาด้าน E-commerce ที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบมุ่งเน้นไปที่การสร้างโอกาสการเจริญเติบโตให้กับแบรนด์ ผู้ผลิต ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป แคนาดา และเอเชีย ทีม AMZ สามารถบรรลุเป้าหมายการเจริญเติบโตอย่างไม่น่าเชื่อบนแพลตฟอร์ม Amazon สำหรับลูกค้าของพวกเขา พวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ จัดการบัญชี และสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดในเนื้อหาเชิงลึกได้
แปลโดย Terrestrial