TYPE OF CUTS II : เทคนิคการตัดต่อและถ่ายทำ

type of cuts II

จากบทความที่แล้ว TYPE OF CUTS : เทคนิคการตัดต่อและถ่ายทำ ที่เราได้พูดถึงเทคนิคการตัดต่อลักษณะต่างๆ สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดกันต่อว่าประเภทของการตัดต่อ หรือเทคนิคอื่นๆนั้นยังมีแบบใดอยู่อีกบ้าง

ในบทความที่แล้วเราได้พูดถึงการตัดแบบ Constrast Cuts ซึ่งนอกไปจากนั้นยังมีอีกหนึ่งเทคนิคลักษณะการตัดต่อที่คล้ายกันและยังมีส่วนคล้ายกับ Match Cuts อีกด้วย นั่นคือการตัดต่อแบบ Parallel Editing Cuts

PARALLEL EDITING CUTS

การตัดต่อแบบคู่ขนานจะเป็นการตัดต่อที่มีลักษณะการสรา้งทรานซิชั่นที่ไร้รอยต่อระหว่างฉาก โดยเล่นกับวัตถุประกอบฉาก หรือตัวนักแสดง มันจะช่วยเพิ่มความต่อเนื่องของฉากที่อยู่ติดกัน หรือใช้เชื่อมสถานที่สองสถานที่ได้เช่นเดียวกัน

ลองดูตัวอย่างจากหนังภาพยนต์เรื่อง Charade ที่ใช้การตัดต่อแบบคู่ขนานได้อย่างลงตัว ในฉากที่มีการวิ่งไล่ตามกันระหว่างสองตัวละครและใช้เสาในการตัดสลับฉากทั้งสองฉาก ตัดกลับไปกลับมาระหว่างตัวละครทั้งสองตัว ซึ่งเทคนิคนี้จะเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ทักษะในการถ่ายทำค่อนข้างสูง ซึ่งมีปัจจัยหลายๆอย่างที่ต้องควบคุมให้ดีทั้ง จังหวะการวิ่งของนักแสดง การเคลื่อนที่และตำแหน่งของกล้อง

J AND L CUTS

ใช้เสียงในการตัดต่อฉากและเชื่อมฉาก เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดทั้งแบบ Cross Cuts และ Hard Cuts

หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดเกี่ยวกับลักษณะการตัดต่อแบบ J&T นั้นคือ หากเสียงของฉากถัดไปซึมเข้ามาในฉากก่อนหน้าจะถูกเรียกว่า J Cuts เป็นการตัดต่อที่ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือช่วยในการเพิ่มความสอดคล้องระหว่างสองฉากได้ไปพร้อมๆกัน วิดีโอตัวอย่างจากหนังเรื่อง Mulholland Drive ที่ตัดเอาเสียงเพลงมาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอีกฉากหนึ่ง

ส่วน L Cuts นั้นจะใช้เสียงของฉากแรกส่งต่อไปยังฉากต่อไป เสียงในที่นี้อาจเป็นเสียงบทสนทนา เสียงพากษ์ หรือเสียงเพลงก็ได้เช่นกัน เทคนิคนี้จะช่วยลดความรู้สึกของฉากก่อนหน้าลงและค่อยๆเริ่มกับฉากถัดไปได้อย่างลงตัวเพื่อลดความรู้สึกขัดใจหากถูกตัดฉากไปอย่างกระทันหัน

DYNAMIC CUT

การตัดต่อแบบไดนามิกนั้นมักถูกใช้ตัดในฉากหรือสถานการณ์ที่มีความโดดเด่นจากสถานการณ์อื่นๆ หรือเมื่อต้องการขยายความสื่อสารภาพออกมาอย่างรวดเร็วจากเรื่องราวที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อช่วยเพิ่มความตื่นเต้น เพิ่มความรู้สึกให้มากขึ้นนั่นเองมักเป็นหนังภาพยนต์แนวแอคชั่นที่น่าตื่นเต้น

MONTAGE

การตัดต่อที่เพิ่มระยะเวลาจากการตัดต่อแบบไดนามิกให้ยาวขึ้น เป็นชุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่สื่อสารภาพออกมาให้ชมทั้งหมด ผู้ชมจะสามารถรับรู้โดยไม่ต้องเสียเวลามาก ของยกตัวอย่างจากหนังล่ารางวัลอย่างเรื่อง Parasite ที่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกมาอย่างเข้าใจได้ง่ายและกระชับ

INVISIBLE CUT

ฉากจากหนังภาพยนต์เรื่อง Birdman จะช่วยอธิบายเรื่องการตัดต่อแบบ Invisible ได้เป็นอย่างดี หนังใช้จุดเชื่อมต่อระหว่างฉากจากฉากกำลังจะเปิดประตูออกไปภายนอกร้านโดยค่อยๆเฟดภาพให้หายไปในความมืดและตัดกลับมาให้เป็นฉากที่เปิดประตูไปแล้ว ซึ่งทักษะนี้ช่วยในการที่หากในขั้นตอนการถ่ายทำแต่ละฉากให้สมูทเป็นไปได้ยากนั่นเอง

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.