บนโลก E-commerce ภาพถ่ายที่ดีและการทำ SEO (Search engine optimization) ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อสินค้า การเขียนคำอธิบาย การใช้คีย์เวิร์ด หรือแม้กระทั่งการวิเคราะห์และเปรียนเทียบ) ทั้งหมดนัเเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ขายต้องจดบันทึกใน List ที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด
สำหรับผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazom.com ไม่ต้องกังวลในส่วนของการวิเคราะห์หรือการเปรียนเทียบ หรือแม้กระทั่งการทำ SEO เพราะทาง Amazon มักออกเครื่องมือมาช่วยผู้ขายให้สามารถขายสินค้าของตัวเองและทำให้สินค้าของคุณโชว์หน้าเพจเว็บไซต์ได้

เครื่องมือที่จะมาแนะนำในวันนี้คือ A/B Testing ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่จะช่วยให้ผู้ขายสามารถทดสอบรายการสินค้าของตัวเองในแง่มุมต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสนใจของลูกค้าและยอดขายได้มากถึง 25%
อธิบายให้ละเอียดมากขึ้น…ยกตัวอย่างฟังก์ชั่น A/B Testing ที่น่าใช้
1.ชื่อสินค้าและรูปภาพ

เครื่องสำหรับการทดสอบรูปภาพสินค้าและชื่อสินค้าที่จะช่วยให้ผู้ขายมั่นใจได้ว่าเนื้อหาเวอร์ชัน A และเวอร์ชัน B มีความแตกต่างกันอย่างไร และเมื่อผู้ขายออกแบบการทดสอบ ผลการทดสอบจะแสดงผลว่า A หรือ B ที่มีประสิทธิภาพกว่ากัน และหลังจากนั้นทาง Amazon ปรับ Version นั้นให้หลายเป็น Version หลัก
2. Auto-publish(เผยแพร่อัตโนมัติ)

ในฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้ผู้ขาย ตั้งค่าหน้าสินค้าของตัวเองให้เผยแพร่เอง จากนั้นไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก (Set it and forget it) โดยหากเปรียบเทียบ Version ไหนที่ผ่านการทดสอบชนะ จะถูกเผยแพร่โดยอัตโนมัติทันที
3.ทดสอบหัวข้อย่อยและคำอธิบายสินค้า (Bullet points and product description testing)

ก่อนหน้านี้ จะมีเพียงการทดสอบ A/B เฉพาะชื่อผลิตภัณฑ์ รูปภาพหลัก และเนื้อหา A+ ตอนนี้ผู้ขายสามารถทดสอบหัวข้อย่อยและคำอธิบายผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาภายในรายการผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น หรือก็คือการสร้าง Listing มา 2 Version หาก Version ไหนชนะ จะถูกนำไปเป็น Version หลักในการเผยแพร่
การทำ A/B testing
สำหรับผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazon.com จำเป็นต้อง Login เข้าระบบ Amazon seller central เสียก่อน หลังจากนั้นไปที่แถบเมนู (เครื่องหมายขีด 3 ขีด) หลังจากนั้นไปที่ Brands > Manage Experiment

เมื่อเข้ามาที่หน้า Manage Experiments จะเห็นตัวเลือกขวามือ “Create a New Experiment” ซึ่งตัวเลือกนี้คุณสามารถเลือกเปรียบเทียบตามหัวข้อที่ต้องการ ซึ่งในบทความนี้จะทดสอบการเปรียบเทียบภาพหลักของสินค้า (Main image)

คุณต้องกรอก ASIN ของสินค้าที่ต้องการทำการเปรียบเทียบ แต่ไม่ใช่สินค้าทุกตัวที่จะทำได้ สินค้าน้นจำเป็นต้องมี Traffic พอสมควรและต้องมีระยะเวลาการขายบน Amazon ระดับหนึ่ง

ในขั้นตอนสุดท้ายนี้คือ คุณต้องเลือกภาพ Version B เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับ Version ปัจจุบัน หลังจากนั้นกด Schedule Experiment

หลังจากนั้นทาง Amazon จะทำการเผยแพร่ทั้ง 2 Version ออกไปและทำการเปรียบเทียบในหัวข้อต่าง ๆ ทั้งการคลิกหรือซื้อ เมื่อครบระยะเวลา Version ที่ชนะ จะถูกเผยแพร่เป็นอันหลักโดตอัตโนมัติ