การแสดงสินค้าที่โชว์เพียงชื่อรายการสินค้า คำอธิบาย หรือสัญลักษณ์เพียงบางส่วนอาจทำให้ลูกค้าที่เข้ามาชม Listing เกิดความน่าเบื่อ ไม่สนใจและจนไปถึงไม่กดสั่งซื้อ ฉะนั้นสำหรับผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazon จะได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า A+ Content และ Premium A+ Content ซึ่งทำให้ผู้ขายสามารถสร้างกลยุทธ์การขายและทำให้ Listing สะดุดตามากขึ้น
A+ Content และ Premium A+ Content คืออะไร

เริ่มจาก A+ Content เป็นหนึ่งในเครื่องมาตรฐานที่มีให้สำหรับผู้ขายของ Amazon ทุกคน และฟรี โดยเป็นหนึ่งในประโยชน์ของ Amazon Brand Registry โดยจะผู้ขายสามารถสร้างเนื้อหาได้ตามหัวข้อที่ถูกกำหนดไว้เช่น ภาพถ่าย, Video, Bullet points, 360° product views และอื่น ๆ
แต่ Premium A+ Content หรือ Amazon A++ Content เป็นอีกขึ้นของ A+ Content ที่ทาง Amazon ระบุว่าการใช้เนื้อหา Premium A+ สามารถเพิ่มยอดขายของคุณได้ 20% นอกจากนี้ถูกเปิดใช่งานในเดือนสิงหาคม 2022 สามารถใช้งานได้บน Seller Central
ดูตัวอย่างของการใช้งาน A+ Content ได้จากหน้าร้าน Amazon ของ roro
รู้จักกับ Premium A+ Content มากขึ้น

Premium A+ Content เป็นเครื่องมือที่ Amazon ที่ช่วยให้ผู้ขายสร้างหน้ารายละเอียดผลิตภัณฑ์ให้ดึงดูดสายตาและสร้างการส่วนร่วม สามารถปรับแต่งมากกว่า A+ Content มาตรฐาน โดย Premium A+ Content มีให้สำหรับผู้ขายที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มียอดขายสูงและมีคะแนนผู้ขายที่ดี
นอกจากนี้ Premium A+ จะสามารถสื่อสารด้วยภาพโดยใช้ภาพและวิดีโอ และใช้ข้อความน้อยลงมาก เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประโยชน์จากการใช้ Premium A+ Content
ในส่วนของหน้าแสดง Content จะถูกขยายส่วนในก้างขึ้น โดยใช้ความกว้างทั้งหมดของหน้าจอเพื่อความรู้สึกที่น่าสนใจและทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ขายสามารถใช้อินเทอร์เฟซแบบลากและวางเพื่อสร้างเทมเพลตที่กำหนดเอง (ตรงนี้จะต่างจาก A+ ที่ต้องวางตาม Template) และมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น
- Video (วิดีโอ)
- Full-width imagery (ภาพเต็มความกว้าง)
- More space (พื้นที่มากขึ้น)
- Clickable Q&A (คำถาม & คำตอบที่คลิกได้)
- Interactive comparison charts (แผนภูมิเปรียบเทียบ)
และอื่น ๆ เช่น เพิ่มวิดีโอ และเพิ่มองค์ประกอบเชิงโต้ตอบ เช่น เพลง แถบ และภาพหมุน แลพภาพข้างล่างคือตัวอย่างของฟังก์ชั่นที่สามารถใช้ได้

ตัวอย่างการใช้ Premium A+ Content

