หากพูดถึงเรื่องผ้าแล้ว โดยทั่วไปจะสามารถแบ่งประเภทผ้าออกเป็น 2 แบบ คือผ้าที่เกิดจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ฝ้าย (Cotton) ไหม (silk) ขนสัตว์ (Wool) และลินิน (linen) เป็นต้น อีกประเภทเป็นผ้าที่เกิดจากเส้นใยที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึงผ้าสองชนิดที่เป็นผ้าชนิดสังเคราะห์คือ ไหมสังเคราะห์เรยอน (Rayon) และ โพลีเอสเตอร์ (Polyester)

Rayon – ไหมสังเคราะห์เรยอน
เรยอน เป็นวัสดุสิ่งทอที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ประกอบด้วยเซลลูโลส Synthetic Cellulose Fibers ที่สร้างใหม่และบริสุทธิ์จากพืช เป็นเส้นใยที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 โดย Robert Hooke เพราะต้องการประดิษฐ์เส้นใยให้เหมือนกับใยไหมและหลังจากนั้น George Audemars นักเคมีชาวสวิสได้ค้นพบวิธีทำให้เซลูโลส ไทเตรท (Cellulose Nitrate) มาทำให้เป็นเส้นใยที่ยาวได้ เริ่มแรกเป็นที่รู้จักกันในชื่อไหมเทียม และถูกเรียกว่า เรยอนในภายหลัง
คุณสมบัติของผ้าเรยอน เป็นเส้นใยที่มีความเงามันคล้ายไหม สวมใส่ได้สบาย สามารถดูดซับความชื้นและน้ำได้ดี ระบายความร้อน ทนความร้อน แต่จะติดไฟได้อย่างรวดเร็วคล้ายผ้าฝ้าย เปื่อยง่าย ยับง่าย มีการนำมาผสมกับ Acetate ทำให้ผ้ายับน้อยลง เหนียว คงทนขึ้น รักษารูปทรงได้ดีขึ้น ข้อดีของผ้าเรยอน คือมีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างถูก สามารถทำเลียนแบบเส้นใยอื่นๆได้หลากหลาย คนนิยมนำมาผสมกับเส้นใยอื่นๆ เพื่อลดต้นทุน

ในปัจจุบันสามารถนำผ้าเรยอนไปทำอะไรได้บ้าง?
ส่วนใหญ่ผ้าเรยอนจะถูกนำไปทำเป็นเสื้อผ้าไว้สวมใส่เป็นส่วนมาก เช่น กระโปรง ชุดเดรส มินิเดรส หรือชุดแขก เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นยังสามารถนำไปตกแต่งบ้านได้ เช่น ทำผ้าม่าน หรือผ้าคลุมโต๊ะ ตามงานอีเว้นท์



Polyester – ผ้าโพลีเอสเตอร์
เส้นใยโพลีเอสเตอร์ ถูกค้นพบขึ้นโดย Dr. W.H. Carothers ชาวสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1930 เป็นผู้ค้นพบเส้นใยไนลอน หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้ทำการศึกษาต่อจนได้เส้นใยโพลีเอสเตอร์
ผ้าโพลีเอสเตอร์ เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม อากาศ และน้ำ เส้นใยโพลีเอสเตอร์ประกอบด้วย กรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์ (PTA) และโมโนเทอลูอีนไกลคอล (MEG) โพลีเอสเตอร์เป็นเทอร์โมพลาสติก ที่สามารถละลายและปรับสภาพใหม่ได้ ในขั้นตอนการทำโพลีเอสเตอร์นั้นนักเคมีจะละลายเม็ดของมันและบีบมันผ่านรูเล็กๆที่เรียกว่า สปินเนอร์ ทำให้เกิดเป็นเส้นใยไว้ใช้สำหรับสิ่งทอ

คุณสมบัติของใยโพลีเอสเตอร์
ลักษณะของโพลีเอสเตอร์เมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ จะมีลักษณะตามยาวมีผิวเรียบสม่ำเสมอตลอดเส้น มักเห็นจุดเล็กๆในเส้นใยจากฟิกเมนท์ที่เติมลงไปเพื่อลดความมันของเส้นใย มีความเหนียว และยืดหยุ่นดีไม่ยับง่าย คงขนาดได้ดี ดูดความชื้นได้ต่ำ ย้อมสีติดยาก และไม่โปร่งระบายอากาศได้น้อย แต่สามารถผลิตให้มีช่องว่างในเนื้อผ้ามาก (Wickabillity) เพื่อให้ระบายอากาศได้ดีมากยิ่งขึ้น เมื่อโดนความร้อนสีจะไม่จางลงมาก นอกจากนั้นหากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ผ่านขบวนการทำให้อยู่ตัวด้วยความร้อน (Heat setting) มันจะไม่ยืด หรือหดไม่ยับ ทนต่อสารฟอกขาว สบู่ ผงซักฟอก แสงแดด และแมลง

การนำผ้าโพลีเอสเตอร์ไปใช้ประโยชน์ในปัจจุบัน
ผ้าจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์เป็นที่นิยมมากที่สุดในประเภทกลุ่มเส้นใยสังเคราะห์ และถูกนำไปผลิตเป็นสินค้าหลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกเช่น Dacron, Avlin, Encron, Kodel, Trevira, Vycron เมื่อถูกนำไปทำเป็นเสื้อผ้าจะสวมใส่สบาย ดูแลรักษาง่าย ยับยาก และสามารถนำไปผสมกับเส้นใยชนิดอื่น เช่น ลินิน ฝ้าย ไหม ขนสัตว์ เป็นต้น มันจะให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น มีความสวยงามและคงทนมากยิ่งขึ้น ผลิตได้ทั้งผ้าเนื้อบางเบาและผ้าหนา เช่น กระโปรง กางเกง สูท






บทความที่เกี่ยวข้อง