คำศัพท์เบื้องต้นที่คุณต้องรู้หากทำงานในสายงาน Sales

ในโลกยุคสมัยนี้การทำธุรกิจหรือสายงานต่างๆ ภาษาที่ใช้และเข้าใจต่อกันง่ายก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ และหากคุณกำลังทำงานหรือธุรกิจเกี่ยวกับด้านการ Sales ในการทำงานเฉพาะด้านโดยเฉพาะคำศัพท์เฉพาะทางบางครั้งก็สำคัญกับเรามาก เมื่อเราได้ยินหรือพูด ก็ต้องแน่ใจว่าเราเข้าใจคำศัพท์นั้นจริงๆ ไม่ตีความหมายผิดหรือเข้าใจผิด หากตีความหมายผิดงานที่ทำก็อาจจะมีผลกระทบได้เช่นกัน สำหรับคำศัพท์ในสายงาน Sales จะหยิบยกบางคำเบื้องต้นมาให้เรียนรู้กัน

INBOUND SALES

รูปแบบการขายที่ลูกค้าเดินเข้ามาติดต่อกับคุณจากความสนใจในตัวสินค้าหรือบริการ ซึ่งมีความต้องการซื้ออยู่แล้ว พวกเขาอาจจะได้รับข้อมูลทางด้านการตลาดจากแหล่งต่างๆ เช่น สื่อออนไลน์ ป้ายโฆษณา ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร เป็นต้น ก่อนที่จะเข้ามาพบคุณเพื่อทำการซื้อขาย ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยทางด้านการตลาดสนับสนุนเพื่อทำให้ลูกค้าต้องการซื้อและเดินมาหาคุณ 

OUTBOUND SALES

เรียกได้ว่ามีความตรงกันข้ามกับ “Inbound Sales” ซึ่งแปลว่าการขายวงนอก คือการออกไปหาลูกค้า ยกอย่างเช่น การโทรไปขายหรือออกไปพบลูกค้า

SALES DEVELOPMENT REPRESENTATIVE – SDR

คือตัวแทนฝ่ายขายภายในประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติของลูกค้าเป้าหมายขาเข้ามากขึ้น การย้ายลูกค้าเป้าหมายไปยังผ่านช่องทางการขาย ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ

BUSINESS DEVELOPMENT REPRESENTATIVE – BDR

ตัวแทนฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ตัวแทนฝ่ายขายประเภทหนึ่งซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติเหมาะสมโดยใช้อีเมล หรือการโทรขาย

ตัวแทนฝ่ายขาย (SDR) หรือตัวแทนฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (BDR) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขายที่มุ่งเน้นไปที่การหาโอกาสใหม่ ๆ การสร้างความสัมพันธ์พื้นฐานและการสร้างขั้นตอนการขายด้วยโอกาสในการขายใหม่สำหรับผู้ที่ดูแลลูกค้า

ACCOUNT EXECUTIVE

หรือเรียกสั้นๆว่า AE เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย ซึ่งทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับลูกค้าโดยตรง คำว่า Account Executive นั้นหมายถึง การบริหารงานลูกค้า โดยเรียกลูกค้าแต่ละรายว่า Account ถ้า AE คนไหนดูแลลูกค้า 1 ราย ก็เรียกว่ามี 1 Account นั่นเอง

ACCOUNT MANAGER

หรือเรียกอีกอย่างว่า AM ตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทฯ ในการติดต่อประสานงานกับลูกค้าที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การทำงานระหว่างบริษัทฯและลูกค้าเป็นไปโดยราบรื่นที่สุด และต้องดูแลลูกค้าที่บริษัทฯ กำหนดมาให้ดูแลโดยเฉพาะ เช่น ลูกค้าองค์กร (Corporate Account-Based) หรือลูกค้าที่แบ่งตามกลุ่มธุรกิจ (Industrial-Based) เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น

SALES CADENCE

คือจังหวะการขาย เป็นเพียงช่วงเวลาของกิจกรรมการขายและวิธีการปฏิบัติตามเพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งจะมีขั้นตอนหรือเป็นกระบวนของแต่ละบริษัทกำหนดไว้ เช่น จังหวะการขายจะแจ้งให้คุณทราบว่าจะติดต่อหัวหน้าฝ่ายขายเมื่อใดและอย่างไรหลังจากกรอกแบบฟอร์ม ( เช่นอีเมลในวันที่ 1 โทรในวันที่ 2 ส่งข้อความติดตามในวันที่ 3 เป็นต้น)  เห็นได้ชัดว่าการมีจังหวะการขายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนทำให้สิ่งต่างๆ ในกระบวนการขายให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นั่นเป็นเพราะจังหวะการขาย

หากเราเข้าใจคำศัพท์ในการเจรจาธุรกิจหรืองานขาย ก็จะไม่เกิดการตีความหมายผิดหรือเข้าใจผิด การสื่อสารและผลลัพธ์ของงานเป็นไปอย่างราบรื่น ประทับใจฝ่ายผู้ขายและฝ่ายลูกค้าด้วยเช่นกัน

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.