Pain point – customer pain point 5 จุดที่พบบ่อยในธุรกิจ

  • by
5 จุด Pain Points ของลูกค้าที่พบบ่อย

Pain Point หรือ “จุดเจ็บปวด” เป็นภาษาทางการตลาด ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกค้า จุดเจ็บปวดที่ว่านั้นมักจะเป็นจุดอ่อนทางธุรกิจหรือปัญหาที่ลูกค้าพบเจออยู่ หนึ่งในวิธีการเริ่มต้นการขายที่ดีนั้นคือการทำให้ลูกค้าตระหนักถึง Pain Point ที่มี ว่าปัญหานั้นคืออะไรและใครจะช่วยแก้ไขจุดอ่อนเหล่านั้นได้และจะทำอย่างไร

จากประสบการณ์ของลูกค้าเทอเรสเทรียลพบเจอมากที่สุด โดยจะขอจัด 5 ข้อ Pain Point ที่พบบ่อยดังนี้

1.) ด้านการบริหาร

ไม่เข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมายหรือด้านเอกสารในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากบริษัทเราทำเกี่ยวกับการส่งออกไปอเมริกาแต่พบเจอกับลูกค้าที่ยังไม่มีความรู้มากพอ เช่น ต้องการส่งอาหารไปอเมริกาแต่ไม่ทราบว่าตามกฎหมายต้องมี USFDA ด้วยถึงจะนำเข้าได้ ซึ่งหากบางครั้งส่งออกไปแล้วแต่ไม่น่าสามารถนำเข้าได้เพราะไม่ทราบในข้อกฎหมายนี้ เป็นต้น ซึ่งการบริหารนี้รวมไปถึงเรื่องภาษี ซึ่งหากเราเลือกสินค้าที่มีภาษีสูงอาจจะทำให้เพิ่มต้นทุน ซึ่งมีผลต่อการตั้งราคาขายที่สูงขึ้นไปด้วย หากสินค้ามีราคาสูงก็จะทำให้ขายออกยากยิ่งขึ้น

2.) ค่าโลจิสติกส์ที่แพง

บางท่านมักจะเลือกการจัดส่งอากาศ (Air Freight) เท่านั้น ซึ่งมีราคาแพงกว่าขนส่งทางเรือ (Sea Freight) ถึง 10 เท่า หากท่านวางแผนจะส่งสินค้าที่มีน้ำหนักและจำนวนมาก การขนส่งทางเรือก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เนื่องจากสามารถส่งได้จำนวนมาก ไม่จำกัดน้ำหนัก ด้วยต้นทุนขนส่งที่สูงขึ้นมีผลต่อการกำหนดราคาขายด้วยดังที่กล่าวไปข้อแรกว่าต้นทุนสูงอาจจะทำให้เพิ่มต้นทุน ซึ่งมีผลต่อการตั้งราคาขายที่สูงขึ้นไปด้วย หากสินค้ามีราคาสูงก็จะทำให้ขายออกยากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเลือกใช้ขนส่งที่ราคาถูกลงก็จะทำให้ช่วยลดต้นทุนได้ด้วยมีผลต่อการตั้งราคาขายที่ต่ำลง สามารถขายออกได้ไวยิ่งขึ้น

3.) ผลิตภัณฑ์ (Branding) เหมาะสมกับตลาด

หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าการใช้ชื่อ สี โลโก้สินค้านั้นก็มีผลต่อการขายด้วยเช่นกัน ยิ่งหากขายในต่างประเทศแล้วต้องระมัดระวังการใช้คำหรือชื่อแบรนด์ เพราะจะมีบางคำที่เขียน อ่านออกเสียง คำที่มีความหมายไปในการลบ รวมถึงการเขียน Listing ของสินค้าด้วย ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังการใช้คำเป็นพิเศษ และส่วนในเรื่องการใช้สีนั้นต้องศึกษาถึงวัฒนธรรม ศิลปะ ความนิยมของประเทศที่จะไปขายด้วย เพราะหากเป็นขายในเอเชียการใช้สีฉูดฉาดอาจจะช่วยดึงดูดคนให้สนใจหรือมีความโดดเด่น แต่หากจะขายที่อเมริกาแล้วล่ะก็ควรจะใช้เลือกใช้สี earth tone หรือสีโทนอ่อนๆจะเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ต้องดูโดยภาพรวมของสินค้าผลิตภัณฑ์ที่จะขายร่วมประกอบด้วย

4.) Packaging Design หรือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์

การออกแบบ Packaging หรือบรรจุภัณฑ์นั้น ต้องศึกษาดูตลาดที่ขายก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ เช่น ต้องการให้สินค้าสามารถวางตั้งได้ สำหรับวางขายบนชั้น ก็ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เป็นกล่องหรือมีฐานตั้งได้ และสำหรับการขายออนไลน์นั้น ต้องคำนึงถึงบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น ต้องประหยัดพื้นที่ ขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่เกิน ในบ่อยครั้งเรามักจะพบเห็นสินค้าถูกยัดมาในกล่องหรือมีปริมาณที่ไม่สมกับบรรจุภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการขายมะม่วงอบแห้งในถุงซองซิปล็อกในซองบรรจุที่สูง แต่ปริมาณด้านในมีน้อยแค่ 1/4 ของถุง จะทำให้ผู้ซื้อได้รับความรู้สึกถึงความไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปได้

5.) ไม่รู้จักวิธีที่จะเข้าสู่ตลาด

โดยสำหรับบางท่านอาจจะคิดว่าการขายหน้าร้านอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่และช่องทางที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น การขยายตลาดที่ถูกต้องคือ “การขายออนไลน์” จึงต้องเพิ่มวิธีขายออนไลน์เข้ามาช่วย เพราะในสังคมสมัยนี้โลกออนไลน์เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันและมีอิทธิพล โดยหลายท่านสนใจอยากจะขายออนไลน์และรวมถึงขยายไปยังตลาดออนไลน์ต่างประเทศด้วยแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ไม่ทราบวิธียิงโฆษณาสินค้า การเลือกสินค้าไม่ถูกกับตลาด การใช้คำไม่ถูกต้อง ใช้คำที่คนไม่รู้จัก จึงมีผลต่อการค้นหาที่ยากขึ้นด้วย

จากทั้ง 5 ข้อคือ Pain Point ที่พบเจอบ่อยของลูกค้า หลายครั้งที่คนที่เริ่มต้นต้องการที่ปรึกษา การให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาที่จุดอ่อนนั้นเทอเรสเทรียลสามารถช่วยแก้ปัญหาของคุณได้ เรามีความเชี่ยวชาญและพร้อมที่จะให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้คุณขายออนไลน์บนตลาดอเมริกาได้

สนใจบริการติดต่อ Tel 052-001667 , 090-2120234  🟢 LINE ID : goterrestrial 🟢  E-mail : hello@goterrestrial.com

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.