10 ฟอนต์ที่ไม่ควรนำมาอยู่บน Business & Brands ของคุณ

10 ฟอนต์ที่ไม่ควรนำมาอยู่บน Business & Brands ของคุณ

อย่างที่เคยกล่าวในบทความ Typography for logo design – ใช้ตัวอักษรทำเป็นโลโก้ยังไงให้ High End – (goterrestrial.com) แล้วนั้นในทางตรงกันข้ามฟอนต์ตัวอักษรลักษณะใดที่ไม่ควรจะนำมาออกแบบเป็นโลโก้ แบรนด์หรืออะไรก็ตามที่อยู่บนตัวธุรกิจแล้วแสดงให้นึกถึงธุรกิจนั้นๆ ฟอนต์ต่างๆมีลักษณะเฉพาะและมักสื่อความหมายหรือสื่ออารมณ์ที่แตกต่างกันไป การใช้แบบอักษร รูปแบบฟอนต์ผิดๆอาจเป็นการทำลายแบรนด์ของคุณด้วย บทความนี้จะยกตัวอย่าง 10 แบบฟอนต์ออกแบบมักเลี่ยงการใช้งานในการออกแบบโลโก้

1.Impact

ฟอนต์นี้เป็นหนึ่งในฟอนต์ที่นักออกแบบมักใช้ในงานส่วนหัวเรื่องมากที่สุด มันมีข้อดีคือสามารถอ่านง่าย ตัวใหญ่ ชัดเจนและเรียบง่าย มันสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้อย่างมาก แต่มันไม่ควรที่จะนำมาใช้ในงานออกแบบโลโก้แบรนด์เนื่องจากมันดูบางและเรียบง่ายเกินไป ไร้คุณสมบัติด้านความโดดเด่นและเอกลักษณ์ มันถูกใช้ในงานเอกสารสำนักงานหรือการส่งอีเมลมากกว่า มันถูกจัดอยู่ในลักษณะฟอนต์ที่ไม่เป็นมืออาชีพด้านโลโก้

2.TheSans Basic

ถึงแม้ฟอนต์ TheSans จะเป็นฟอนต์ที่มีระยะห่างระหว่างตัวอักษรพอสมควร มีสไตล์ที่ดูประณีต เหมาะสำหรับเนื้อหายาวๆทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่ฟอนต์นี้มีตัว Q ใหญ่ที่มีลักษณะแปลกและดูไม่เหมาะสมสำหรับการออกแบบโดยตัวอักษรทั่วไป เช่นเดียวกับแบบอักษร Impact มันดูเรียบง่ายเกินไปที่จะถูกนำมาใช้สำหรับแบรนด์

3. Trajan

Trajan ถูกนำไปใช้บนโปสเตอร์หนังหรือการโปรโมทหนังต่างๆเป็นจำนวนมาก มันถูกใช้ในโปสเตอร์หนังเรื่อง la-la-land และถูกใช้เป็นจำนวนมากในหนังรัก นอกไปจากนั้นมันยังถูกบรรจุลงโปรแกรมของ Adobe แทบทุกเวอร์ชั่น จากการที่มันถูกนำไปใช้เป็นจำนวนมากแล้วนั้นทำให้มันถูกมองเห็นหลายๆครั้งและผู้คนจะรู้สึกเบื่อกับมันเมื่อได้มอง มันจึงถูกมองข้ามที่จะนำมาใช้ออกแบบเกี่ยวกับแบรนด์หรือโลโก้ใดๆ

4. Arial

Arial เป็นฟอนต์มาตรฐานในระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมใน Windows ทั้งหมด และถูกแทนที่ด้วย Calibri fonts ใน Microsoft Office 2007 ความเป็นมาตรฐานนี้ทำให้มันไม่ถูกเลือกมาทำโลโก้

5. Comic Sans

การใช้แบบอักษรนี้สำหรับป้ายผลิตภัณฑ์หรือป้ายที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเป็นสิ่งที่ไม่ควร เนื่องจากมันจะดูไม่เป็นทางการและสื่ออารมณ์ได้น้อยแล้วนั้น มันเหมาะที่จะเป็นตัวอักษรสำหรับผลิตภัณฑ์เด็ก หรือคำเชิญร่วมงานปาตี้ และหนังสือการ์ตูนมากกว่า

6. Franklin Gothic

หากคุณต้องการให้เว็ปไซต์ของคุณดูเหมือนธีมหนังสือพิมพ์ ฟอนต์ Franklin Gothic เป็นแบบอักษรที่ควรเลือกและมีศักยภาพที่ดูดี มันเหมาะกับหัวข้อข่าวคำถามสั้นๆหรือหัวข้อย่อยเล้กๆไม่ยาวมากที่เป็นส่วนประกอบมากกว่าจะใช้มันทั้งหน้าเว็ปไซต์

7. Helvetica

เป็นที่รู้จักกันดีกับแบบตัวอักษรนี้ มันถูกใช้ในแบรนด์ดังๆมากมายในอดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น BMW, Apple, NASA เป็นต้น ผู้คนส่วนใหญ่เห็นมันบ่อยแต่ในทางกลับกันทำให้มันเป็นฟอนต์ที่ไม่น่านำมาเป็นโลโก้สำหรับแบรนด์ที่มากภายหลัง มันสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ไปจากการถูกใช้เป็นจำนวนมาก

8. Bradley Hand (and Other “Handwritten” Fonts)

เหตุผลที่ฟอนต์สไตล์พวกนี้ถูกนำมาใช้เนื่องจากมันแสดงถึงบุคคลิกภาพส่วนตัวได้เป็นอย่างดี และดูธรรมชาติ มากกว่าฟอนต์สไตล์ Arial จะทำได้ แต่มันถูกใช้เป็นลักษณะงานส่วนตัวและดูไม่เป็นทางการมากเกินไป มันเหมาะที่จะเป็นคำเชิญหรือประโยคคำพูดเล็กๆมากกว่า หากใช้ให้มันเป็นจุดสนใจอย่างชื่อแบรนด์อาจะถูกมองว่าน่ารำคาญได้

9. Courier and Courier New

Courier New ไม่เหมาะที่จะถูกนำมาใช้เป็นอักษรหลักของธุรกิจหรือแบรนด์ใดๆ มันเหมาะกับงานบทภาพยนต์ หรือเอกสารธรรมดาๆ

10. Papyrus

เป็นฟอนต์ที่ดูน่าเบื่อ และมีลักษณะที่ดูแปลก มันถูกใช้หลายครั้งกับโปสเตอร์ภาพยนต์หรือปกซีดีเกมส์ แต่มันเป็นตัวอักษรที่สื่ออารมณ์ได้ค่อนข้างน้อย หากถูกนำมาใช้ในงานเขียนที่มีลักษณะยาวมากอาจดูน่ารำคาญเช่นเดียวกับ Comic Sans อย่าใช้มันในส่วนที่คุณต้องการความจริงจังในการอ่าน และมันถูกนักออกแบบหลายคนมองว่าเป็นตัวอักษรที่ไม่มีเสน่ห์และดูไร้ค่า

สุดท้ายนี้การเลือกฟอนต์สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจใดๆนั้นต้องมองที่ลูกค้าเป็นหลัก คุณต้องการให้ลูกค้ามองแล้วนึกถึงแบรนด์คุณแบบไหน และแสดงจุดยืนของแบรนด์คุณออกมา แนวทางฟอนต์ที่อธิบายทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางในการออกแบบเท่านั้น

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.