What is glaze crystallizaton เคลือบตกผลึกคืออะไร ? ก่อนที่จะรุ้จักว่าเคลือบตกผลึกคือะไร การตกผลึกเกิดขึ้นได้อย่างไรบนเคลือบ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง จะขอพูดถึงก่อนว่า ทำไหมเคลือบ ชนิดนี้ถึง ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก ในอุตสหกรรมไทย
เคลือบตกผลึก มักพบเห็นได้ในงาน ของต่างประเทศ มากกว่า ในไทยเอง แม้กระทั้งใน ระดับของอุดมศึกษา จากที่ค้นหาดู ในหลักสูตรการสอนเองก็มีเพียงบางแห่ง ในสาขาของเซรามิคจริงๆที่จะมีการสอน เนื่องจาก เคลือบผลึก มีการทำที่ค่อนข้างเฉพาะทางและคาดเดาผล ไม่แน่นอน อาจจะเกิด ไม่เกิด หรือ เกิดมากน้อย ควบคุมได้ยาก และตำแหน่งของการเกิด ลักษณะของการเรียงตัวผลึก จะให้เป็นดังความต้องการไม่ได้ทั้งหมด จึงมีคนบางกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับเซรมิค ถือว่า เคลือบผลึก เป็นเคลือบชั้นสูง อีกชนิดหนึ่งที่ทำและคาดเดาผลยาก ยิ่งกว่าเคลือบขี้เถา ที่มีวิธีการทำยาก เสียอีก

“นิยามเคลือบตกผลึก”
-เกิดจาก สารเคลือบเซรามิกจะก่อตัวเป็นผลึกเมื่อหล่อเย็นหากเคมีเหมาะสมและอัตราการเย็นตัวช้าพอที่จะทำให้โมเลกุลเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่ต้องการได้ เมื่อเซรามิกหลอมถูกทำให้เย็นลง ที่จะแข็งตัวเป็นโครงสร้างโมเลกุลที่เป็นระเบียบไปในทิศทางต่างๆ เมื่อให้เวลาเพียงพอสารเคมีจำนวนกออกไซด์ จะเกิดปฏิกิริยาขึ้น เห็นเป็นโครงสร้างผลึก แต่ตัวที่เย็นเร็วกว่าจะแข็งตัวคล้ายเป็นเกล็ดแก้ว ซึ่งจุดมีการควบคุมได้ยาก

“การจำแนกเคลือบผลึก”
-เคลือบบนเซรามิคนั้นมีมากมายหลากหลาย และสามารถแบ่ง ได้ตั้งแต่ ประเภทของออกไซด์ที่ใช้ ลักษณะการเกิดแต่ เพื่อความเข้าในการดูเคลือบวันนี้ จะแบ่ง ตามลักษณะที่ของการมองเห็น เพราะ เคลือบผลึกจะเป็นเคลือบชนิดพิเศษที่ จะสวยงามได้ก็ต่อเมื่อ เรามองเห้น เกล็ดเคลือบ การเรียงตัว เข้ากับชิ้นงานเซรามิค ดังนี้
-เคลือบผลึกที่สามารถมองเห็นได้ด้วย ตาปล่าว เป็นเคลือบผลึกที่มีผลึกของเกล็ดเคลือบขนาดใหญ่ มีเล็กและใหญ่สลับกันออกไป หรือต่อกันเป็น แพแต่มีขอบเขตที่ชัดเจน ในบางครั้งจะมีการนับ ผลึกที่เกิดขึ้นว่า ดอก คล้ายการนับดอกไม้ บนพุ่มไม้ เคลือบชนิดนี้จะมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ทั้งบนแจกัน บนจาน หรือภาชนะอื่นๆ จะคล้ายงานศิลปะชิ้นหนึ่งมากกว่า ของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เน้นสวยงาม ประดับ

-เคลือบผลึกที่ มีขนาดเล็ก และซ้อนชิดกันจนมองเห้นเป็นแพ หรือเกล็ดขนาดเล็กซ้อนๆกัน ผลึกที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กมากจนมองเห็นเป็นเกล็ดๆ

“สารที่ทำให้เกิดการตกผลึก และ การเผา”
เคลือบผลึกเกิดได้จาก ออกไซด์ที่ทำปฏิกริยา ในที่นี้จะพูดถึงประเภทของเหล็ก เพราะผลึก หลายๆชนิดที่เกิดขึ้นบนตัวชิ้นงานมีที่มีทีต่างกัน บางตัว ต้องประกอบด้วยอลุมินา หรือสารในกลุ่มกลาง ผสมในปริมาณนน้อย ส่วนมากจะไปทางเบส เนื่องจากเคลือบต้องการการไหลตัวของเคลือบสูงสารจำพวกด่างจะช่วยให้เคลือบไหลตัวดี สารเคมีที่ใช้ในเคลือบผลึกโดยเฉพาะสารเคมีที่ใช้ในกลุ่มด่าง ควรเป็นสารเคมีที่มีน้ำหนักมวลของอะตอมต่ำและมีปริมาณมาก เช่น โซเดียม โพเทสเซียม แคลเซียม ซึ้งสารพวกมีเป็นส่วนประกอบของการทำเคลือบอยุ่แล้ว อยู่ทั้งในเคลือบที่ผสมแล้วและสารตั้งต้นเบส.สารเคมีที่อยุ่ในรูปแบบกรด ซึ้ง อาจจะต้องมีเพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีไม่ได้ เช่น ซิลิกา ที่ช่วยให้เคลือบเผาได้สูงและช่วยละหลอม ไทเทเนียม.การใช้หินฟันมามาช่วยในการทำเคลือบผลึก ควรใช้หินปูนฟันม้าประเภท โซดาเฟลสปา จำทพให้เกิดผลึกได้มากกว่าและมีขนานใหญ่ ซึ้งจะดีกว่าการใช้ โพแทสเซียมเฟลสปา สำคัญที่สุดสารที่ช่วยให้เคลือบมีความชัดเจนที่ลายดอก และขนาดใหญ่คือ สังกะสี ออกไชด์อย่างที่รุ้ว่าถ้าเคลือบผลึกต้องมีสังกะสีเป็นตัวช่วย ยังมีเหล็กออกไซด์ และไททาเนียมไดออกไซด์การเผาจะเผาอยู่ที่1300องศา ซึ่งจะสุงกว่าการเผาเซรามิคโดยทั้่วไปที่จะอยุ่ที่1200-1250องศา เพือต้องการให้เคลือบมีผลึกคล้ายแก้ว แต่ยังไม่ถึงจุดของการหลอมแก้ว และมือเผาเสร็จจะมีการจุจุ่มด้วยน้ำด่างเพื่อการเย็นตัวอย่างรวดเร็ว และ ทำให้ ดอกบนเคลือบชัดและปรากฏขึ้น หรือบางที่จะใช้เป็นการเป่าลม เย็นแทน
