เตรียมความพร้อมกับการลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า-ส่งออก Paperless กับกรมศุลกากร

สำหรับท่านใดที่มีความประสงค์จะเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกต้องการลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากร ทางเรามีคำแนะนำสำหรับการติดตั้งและการลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากรเบื้องต้นเพื่อให้ท่านทราบข้อมูล รายละเอียด เกี่ยวกับการลงทะเบียนในบทความนี้ 

พิธีการศุลกากรคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร? 

พิธีการศุลกากรเป็นหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการนำเข้า-ส่งออก ก่อนที่จะสามารถดำเนินพิธีการศุลกากรได้นั้น ผู้นำเข้า-ส่งออกเป็นได้ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาจะต้องมีการลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากรและได้รับเลข Paperless แล้วเท่านั้น จึงจะสามารถดำเนินพิธีการส่งออกกับกรมศุลกากรได้ โดยการเช็คข้อมูลเบื้องต้นก่อนจะสามารถลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากร ดังนี้ 

นิติบุคคล 

1.) จะต้องจดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล รูปแบบบริษัท หรือเป็นผู้ประกอบการ

2.) จะต้องมีวัตถุประสงค์ในหนังสือรับรองของบริษัทเนื้อความเกี่ยวกับการนำเข้า/ส่งออก “ประกอบกิจการนำเข้ามาจำหน่ายหรือส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ”  และจะต้องรวมถึง “การขนส่งและขนถ่ายสินค้า โดยทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ” ด้วย

3.) หากไม่มีเนื้อความเล่านี้ในวัตถุประสงค์ในหนังสือรับรองของบริษัทจะต้องไปเพิ่มวัตถุประสงค์ก่อน โดยสามารถไปเพิ่มสำนักทะเบียน ณ จังหวัดที่ขอจดทะเบียนนั้น ๆ 

หากเพิ่มวัตถุประสงค์หรือมีวัตถุประสงค์ครบถ้วนแล้วถึงจะสามารถไปลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากรได้ 

เอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียนกับกรมศุลกากร

นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาใช้เอกสารอะไรบ้าง  โดยจะแบ่งเป็นสัญลักษณ์ดังนี้ 🟢 นิติบุคคล 🟡 บุคคลธรรมดา 

🟢🟡 1. กรณีคนไทย : บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรอง) 
🟢🟡 2. กรณีบุคคลต่างประเทศ : สําเนาหนังสือเดินทาง (Passport)
🟢 3. หนังสือรับรองนิติบุคคล – DBD (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
🟢 4. ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือก.พ. 20
🟢 5. บอจ.3 (แบบแสดงรายการจัดตั้งบริษัท)
🟢 6. บอจ.5 (สาเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น)
🟢🟡 7. แบบค่าขอการลงทะเบียนของกรมศุลกากร
🟢🟡 8. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองไม่สามารถดำเนินการลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง)
🟢🟡 9. บัตรประจําตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอานาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทน)

หลังจากที่เราเช็คข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เตรียมเอกสารทั้งหมดที่ใช้ในการลงทะเบียนอย่าลืมลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจและประทับตราบริษัท (หากมี) และไปลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากร 

ขั้นตอนการลงทะเบียนผู้ส่งออกกับกรมศุลกากร 

1.) ลงทะเบียนผ่านระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อออนไลน์ทางเว็บไซต์กรมศุลกากร (Online Customs Registration)

2.) ลงทะเบียน ณ หน่วยบริการรับลงทะเบียนของกรมศุลกากร หรือไปลงทะเบียนที่กรมศุลกากรใกล้บ้าน

 โดยสามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดและการเตรียมเอกสารได้ที่กรมศุลกากรหรือกรมศุลกากรใกล้บ้านของท่าน 

3.) หลังจากลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จะต้องเพิ่มผู้มีอำนาจกระทำการแทนในระบบด้วย โดยจะต้องใช้สำเนาบัตรกรรมการผู้มีอำนาจตัวจริงไปเพิ่มผู้มีอำนาจที่กรมศุลกากร
     เอกสารที่ใช้มีใบคำขอ 7 และ ใบแนบ ก / สำเนาหนังสือรับรองบริษัท / ภพ.20 อายุไม่เกิน 3 เดือน ประทับตราและลงลายมือชื่อ หรือเตรียมหลักฐานไปแล้วไปที่ศุลกากร แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะทำเรื่องขอเพิ่มผู้มีอำนาจกระทำการแทนก็ได้ 

4.) หลังจากลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้วจะได้รับใบตอบรับการลงทะเบียน ได้รับเลข Paperless

5.) หลังจากลงทะเบียนและได้รับเลข Paperless แล้วถึงจะสามารถส่งออกได้ และสามารถมอบอำนาจให้ตัวแทนของบริษัทเราไปดำเนินการแยกใบขนขาออกให้ได้

หมายเหตุ : ในกรณีที่ลูกค้าหลายรายต้องการใบขนขาออกจะต้องดำเนินการมอบอำนาจให้กับบริษัทที่ได้รับจดทะเบียนโบรกเกอร์ หรือตัวแทนของออก


สำหรับผู้ขายบน Amazon และลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งกับเทอเรสเทรียล 

สำหรับลูกค้าที่ขายบน  Amazon.com มีรายได้เกิน $5,000 ต่อปี กฎใหม่ของ amazon คือผู้ขายจะต้องมีหมายเลขเสียภาษี Tax ID ซึ่งจะต้องมาจากการจดทะเบียนบริษัทหรือนิติบุคคล ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้มีเนื้อหาแน่ชัดว่าจะต้องมาจากประเทศอเมริกาอย่างเดียวหรือไม่ จากการคาดเดาของเราคาดว่าน่าจะเป็นหมายเลขเสียภาษี หรือ Tax ID จากประเทศใดก็ได้ที่แสดงถึงการจัดตั้งบริษัท เราแนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ขายที่ต้องการขยายบนแพลตฟอร์มนี้ลงทะเบียนบริษัทและมีหมายเลขเสียภาษี Tax ID

สำหรับลูกค้าของบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด นปี 2566 เป็นต้นไป ทางบริษัทเทอเรสเทรียลจะไม่รับการส่งสินค้าประเภทอาหารและสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงภายในการขนส่งของบริษัทเรา ลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าประเภทอาหารไปยังอเมริกา จะต้องแยก BL และใบขนขาออกในนามบริษัทของลูกค้าเองเท่านั้น 

หากคุณมีการค้าขาย นำเข้า-ส่งออกและมีตลาดกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าต่างประเทศ เช่น อเมริกาอยู่แล้ว ทางเราแนะนำให้ลงทะเบียนบริษัทและลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากร เพราะการลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมศุลกากรมีข้อดีคือ ง่ายต่อการดำเนินงานเอกสารเพราะเอกสารทั้งหมดจะอยู่ในชื่อของบริษัทและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกรมสรรพากรอีกด้วย

หลังจากลงทะเบียนผู้ส่งออกกับกรมศุลกากรและเพิ่มผู้มีอำนาจกระทำการในระบบ รวมถึงได้รับเลข Paperless เรียบร้อยแล้วก็สามารถส่งออกและสามารถดำเนินพิธีการส่งออกกับกรมศุลกากรได้ 👍

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.