ข้อดีของการจัดส่งสินค้าทางทะเล (ทางเรือ)

การจัดส่งสินค้าทางเรือหรือทางทะเล สามารถเรียกในชื่อภาษาอังกฤษว่า “Sea Freight” เป็นส่วนประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งของระบบการค้าระหว่างประเทศ และเป็นการขนส่งที่ได้รับการนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุด ถูกกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น และเป็นเพียงการขนส่งสินค้าชนิดเดียวที่ขนส่งสินค้าได้คราวละมาก ๆ

ภาพการส่งสินค้าทางเรือ เรือขนส่งบนทะเล

นอกจากนี้การขนส่งทั้งขาเข้าและขาออกของประเทศไทยนั้นจะเป็นการขนส่งทางทะเลเป็นส่วนใหญ่

อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นประเทศติดชายฝั่งทะเล ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก จึงสามารถสร้างความได้เปรียบจากการใช้ประโยชน์ของการขนส่งระหว่างประเทศด้วยทางเรือ

ท่าเรือแหลมฉบังประเทศไทย

การส่งสินค้าทางทะเล คืออะไร?

การจัดส่งสินค้าทางเรือ คือ การจัดให้มีการเคลื่อนย้ายของสินค้า สิ่งของ โดยดำเนินการทางเรือจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งตามความต้องการของคู่ค้า ซึ่งการจัดสิงนั้นจะใช้ Container Box หรือ ตู้คอนเทนเนอร์ในการบรรจุสินค้า พร้อมขนย้ายตู้ขึ้นไปบนเรือ Container Ship ซึ่งเป็นเรือที่มีลักษณะพิเศษที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ

โดยการส่งสินค้าทางทะเลสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท

1.การขนส่งทางเรือแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ (Full Container Load : FCL)

การขนย้ายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด ขนาดตู้ 40
การขนย้ายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด

คือ การบรรจุสินค้าแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ โดยสินค้าที่บรรจุในตู้เป็นของลูกค้าเพียงรายเดียว เหมาะสำหรับลูกค้าที่มีการขนส่งสินค้าจำนวนมาก และขนาดใหญ่ ปกติแล้วจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20’ 40’ และ 40’HC

2. การขนส่งทางเรือแบบไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ (Less than Container Load : LCL)

การขนย้ายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด
การขนย้ายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด

คือ การที่มีสินค้าภายในตู้เป็นของลูกค้ามากกว่า 1 ราย และใช้ตู้คอนเทนเนอร์เดียวกัน ซึ่งจะเหมาะกับลูกค้าที่มีการส่งสินค้าจำนวนน้อย น้ำหนักมาก

ซึ่งบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด มีบริการแชร์พื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์ให้กับลูกค้าที่ต้องการขนส่งทางเรือไปยังประเทศอเมริกา พร้อมออกเอกสารการส่งออกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการส่งรูปแบบนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับท่านที่ไม่ต้องการส่งเต็มตู้คอนเทนเนอร์

ดูตารางตู้คอนเทนเนอร์ของเราที่ > ตารางตู้คอนเทนเนอร์ 2022

บทความเกี่ยวกับการส่งสินค้าที่เรือ > คลิก


ท่าเรือ การส่งสินค้าทางเรือ ตู้คอนเทนเนอร์

การขนส่งสินค้าทางทะเลจึงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลก ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าจึงต้องศึกษาและทำความเข้าใจในองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งสินค้าทางทะเล

ส่วนประกอบของการขนส่งทางทะเล ประกอบด้วย
1. ผู้ประกอบการขนส่งทางน้ำ ได้แก่ เจ้าของเรือ(Ship Owner) ผู้เช่าเรือ(Ship Charterer) ตัวแทนสายการเรือ (Shipping Agent & Freight Forwarder)

2. พาหนะการขนส่งทางน้ำ คือ เรือโดยสาร เรือสินค้า และเรือเฉพาะกิจ เช่น เรือลากจูง เรือประมง

3. ท่าเรือที่เป็นต้นทางและปลายทางของการขนส่ง (ของบริษัท เทอเรสเทรียล จำกัด ท่าเรือต้นทาง : ท่าเรือแหลมฉบัง, ท่าเรือปลายทาง : ท่าเรือลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย )

4. รายละเอียดชื่อและที่อยู่ ได้แก่ ผู้ส่งสินค้า (Shipper or Exporter) ผู้รับตราส่ง (Consignee) และ ผู้รับสินค้า (Notify Party)

5. เส้นทางการเดินเรือ ที่แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ เส้นทางเดินเรือภายในประเทศ เส้นทางเดินเรือชายฝั่งทะเล และเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ


ข้อดีและข้อเสียของการจัดส่งสินค้าทางเรือ

ข้อดีและข้อเสียของการส่งสินค้าทางทะเล

นอกจากการส่งสินค้าทางเรือจะเป็นที่นิยมของการส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้ว แต่ยังมีข้อกำจัดที่ต้องพิจารณาอยู่หลายข้อ

ข้อดีของการส่งสินค้าทางเรือ(ทางทะเล)

  1. ค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าขนส่งรูปแบบอื่น : การส่งทางเรือถือว่ามีอัตราค่าขนส่งที่ถูกและต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับารขนส่งรูปแบบอื่น
  2. การขนส่งได้ในปริมาณที่มาก : การขนส่งทางเรือนั้นจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในการขนย้าย ฉะนั้นคุณสามารถบรรจุสินค้าเพื่อส่งได้ในจำนวนมาก สามารถรับสินค้าที่มีน้ำเยอะได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังรองรับการส่งสินค้าขนาดใหญ่
  3. ความปลอดภัย : สินค้าที่ถูกบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์จะปลอดภัยทั้งในด้านการโจรกรรม การเสียหายจากปัจจัยอื่น ๆ เพราะสินค้าที่ถูกบรรจุจะถูกเปิดเมื่อถึงปลาทางเท่านั้น
  4. ส่งระยะไกล : การส่งสินค้าทางทะเลนั้นคุณสามารถส่งสินค้าได้ทั่วโลก และห่างไกลจากตัวผู้ส่งได้

**ติดตามข่าวสารโลจิสติกส์ > คลิก

ข้อเสียของการส่งสินค้าทางเรือ(ทางทะเล)

  1. ระยะเวลา : การขนส่งทางเรือจะใช้เวลาที่มากกว่าการขนส่งแบบปกติ จึงจะมีความล่าช้ามาก (ตัวอย่าง : จากประเทศไทยไปยังประเทศอเมริกา ในสถานการณ์ปกติจะใช้เวลา 3 – 4อาทิตย์ แต่ในสถานการณ์โควิด19 นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต้องบวกเพิ่ม 1 – 2 อาทิตย์ ทั้งนี้ยังไม่รวมเรื่องการจัดการด้านศุลกากร)
  2. ความเร็วและสภาพภูมิศาสตร์ : อีกปัจจัยที่มีผลลต่อระยะเวลาการขนส่งคือสภาพภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากลมพายุ กระแสน้ำ ก็สามารถสร้างอุปสรรคในการขนส่งทางทะเลได้
  3. ตารางเวลา : การขนส่งทางทะเล ไม่สามารถกำหนดวันจอดเทียบท่าปลายทางได้อย่างแม่นยำ มักมีการคาดเคลื่อนเนื่องจากปัญหาด้านสภาพภูมิศาสตร์ และภูมิประเทศ
แผนผังการส่งสินค้าทางเรือ

การขนส่งสินค้าทางทะเลเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกว่าการขนส่งแบบอื่น และสามารถส่งสินค้าที่มีน้ำหนักและขนาดใหญ่ได้อีกด้วย แต่สำหรับผู้ที่ต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลต้องทำความเข้าใจในข้อเสียด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านระยะเวลาที่นานกว่าขนส่งแบบอื่น อาจใช้เวลา 3 – 4 อาทิตย์ หรือหากมีสถานการณ์อื่น ๆ อย่างโรคระบาด อาจส่งปลให้ระยะเวลายืดออกไปอีก และยังมีความล่าช้าที่อาจเกิดจากลมพายุ กระแสน้ำอีกด้วย งอยู่เหนือการควบคุม เพราะฉะนั้นหากต้องการที่จะใช้บริการการขนส่งทางเรือควรวางแผนใช้ชัดเจนและควรเผื่อเวลาเอาไว้ด้วย ดูปริมาณและความคุ้มค่าแต่ละครั้งในการขนส่งประกอบ


Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.