เส้นใยสังเคราะห์ (Synthetic Fiber) เป็นเส้นใยที่เกิดจากการค้นคว้าและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ, คุณสมบัติ และประโยชน์ใช้สอยของเส้นใยได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นจากเส้นใยปกติทั่วไปที่ได้จากพืชและขนสัตว์ โดยในระยะแรกๆที่ได้คิดค้นเส้นใยสังเคราะห์นั้น ได้เริ่มต้นจากเส้นใยที่ได้จากเซลลูโลสที่ได้จากพืชมาทำการสังเคราะห์
เส้นใยจากการสังเคราะห์ขึ้นโดยมนุษย์นั้นมี 3 ชนิดหลักๆ ได้แก่
-
เส้นใยเซลลูโลสสังเคราะห์ (Synthetic Cellulose Fibers)
เรยอน (Rayon)
เรยอน เป็นเส้นใยเซลลูโลสสังเคราะห์หรือเซลลูโลสที่นำมาผลิตขึ้นใหม่ (Regenerated cellulose) รู้จักกันในชื่อว่าไหมเทียม ต่อมาภายหลังเรียกว่า เรยอน และได้รับการปรับปรุงคุณภาพ ให้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ เส้นใยเรยอนถูกคิดประดิษฐ์ขึันโดย นายโรเบิร์ท ฮุท (Robert Hooke) ซึ่งได้บันทึกไว้ในหนังสือ Micrographia แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่ายังมีวิธีที่จะคิดประดิษฐ์ เส้นใยให้เหมือนใยไหมได้…
-
เส้นใยโปรตีนสังเคราะห์ (Synthetic Protein Fibers)
ผลิตขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ราวๆปี ค.ศ. 1894 ในขณะนั้นใช้ชื่อว่า Vandura Silk แต่ถึงกระนั้นในครั้งแรกๆที่ผลิตก็ยังได้เส้นใยที่มีคุณสมบัติไม่ดีนัก เพราะเมื่อถูกน้ำจะสามารถละลายได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 Todtenhaupt ได้ผลิตเส้นใยโปรตีนจากหางน้ำนม (Casein) แต่ก็ยังมีคุณสมบัติที่ไม่ดีพอนั่นก็คือการที่เส้นใยนั้นไม่สามารถโค้งงอ และรวมตัวกันได้ดี จึงไม่สามารถนำมาปั่นเป็นเกลียวเส้นด้าย เพื่อที่จะทอเป็นผืนผ้าที่ดีได้
ในระหว่างปี ค.ศ. 1924-1935 Antonio Ferretli สามารถผลิตเส้นใยจากหางน้ำนม (Casein) ได้เป็นผลสำเร็จ และได้ใช้ชื่อทางการค้าเป็นครั้งแรกว่า Lanital ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การผลิตเส้นใยโปรตีนสังเคราะห์จากหางน้ำนมก็ได้แพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ โดยผลิตขึ้นมาและใช้ในชื่อทางการค้าต่างๆกัน เช่น ในประเทศเยอรมันเรียกว่า Tiolan ประเทศฮอลแลนด์เรียกว่า Lactofil ประเทศอังกฤษเรียกว่า Fibrolene ประเทศอิตาลีเรียกว่า Merinova และสหรัฐอเมริกาเรียกว่า Aralac
นอกจากการผลิตเส้นใยโปรตีนสังเคราะห์จากหางน้ำนมแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นคว้า เพื่อผลิตเส้นใยโปรตีนจากถั่วเหลือง ถั่วลิสงและข้าวโพดได้ประสบความสำเร็จ เช่น Vicara ได้จากข้าวโพด Ardil ได้จากถั่วลิสง ปัจจุบันมีการผลิตเส้นใยโปรตีนสังเคราะห์เพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่ Merinova Enkasa และ wipolan แต่ก็ยังมีจำนวนน้อยมาก
- เส้นใยโพลีเมอร์สังเคราะห์ (Synthetic Polymer Fibers)
เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมี (โพลิเมอร์) เป็นเส้นใยทีประดิษฐ์ขึ้นจากสารเคมีโดยวิธีการทางเคมี มีหลายชนิด เช่น ไนลอน โพลิเอสเตอร์ อะคริลิค โอลิฟิน เป็นต้น เส้นใยแต่ละชนีดมีส่วนประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน แต่ก็มีขั้นตอนในการผลิตที่คล้ายคลึงกัน
มารู้จักคุณลักษณะและคุณสมบัติของผ้า แตกต่างและมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
ผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ (polyester)
ด้วยประโยชน์ของผ้าชนิดนี้ที่มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น คงทน และสามารถนำมาทำเป็นเสื้อผ้าได้หลากหลายรูปแบบทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก
ประโยชน์ของผ้าจากเส้นใย Polyester
สีไม่ซีด : แม้ซักทำความสะอาดบ่อยครั้งสีก็ไม่ตกสดใหม่อยู่เสมอและที่สำคัญไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
รีดง่าย : หลังจากการซักสามารถรีดได้เบาๆผ้าก็เรียบแบบ เพราะด้วยคุณสมบัติยืดหยุ่นคืนตัวของผ้า ทำให้ไม่ต้องเปลืองแรงกดหรือไม่มีความจำเป็นต้องรีด
น้ำหนักเบา : ด้วยการทอเส้นละเอียด ทำให้ผ้ามีน้ำหนักเบาแต่ยังสามารถระบายอากาศได้ดีจึงรู้สึกไม่เทอะทะ ไม่หนาอย่างผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ โปร่ง เบา สบายตัว
ยับยาก : ผ้าที่มีส่วนผสมของใยสังเคราะห์ (polyester) จะไม่ยืดหรือหดตัวเมื่อโดนความร้อน และเมื่อซักทำความสะอาดจะยับยาก ทำให้เวลาสวมใส่ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องปัญหาเสื้อไม่เรียบอีกต่อไป
ระบายอากาศได้ : ทำให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกอึดอัด เหงื่อแห้งเร็ว เนื่องจากมีรูระบายอากาศเล็กๆบนเนื้อผ้า โปร่ง สบาย สามารถซักทำความสะอาดง่ายและแห้งเร็ว
สวมใส่สบาย : เนื้อผ้านุ่ม ละเอียด สัมผัสสบาย มีความยืดหยุ่นที่ดี เมื่อสวมใส่แล้วรู้สึกสบายผิว เนื้อผ้าไม่หนาจนเกินไป สามารถใส่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมได้โดยไม่ต้องกลัวอับชื้น
คุณสมบัติที่ดีของเส้นใยโพลิเอสเตอร์นั่นก็คือการที่ไม่ยับง่าย สวมใส่สบาย ดูแลรักษาง่าย เป็นเส้นใยประเภท Wash and Wear นอกจากจะผลิตเป็นผืนผ้าที่ได้จากเส้นใยโพลิเอสเตอร์อย่างเดียวแล้ว ยังนิยมนำเส้นใยโพลิเอสเตอร์ผสมกับเส้นใยชนิดอื่น เช่น เรยอน ไหม ฝัาย ลินิน ขนสัตว์ เป็นต้น และมักจะใช้ประมาณไม่ตำกว่า 60% เซ่น โพลิเอสเตอร์ 65% ฝ้าย 35%
การที่นำเส้นใยโพลิเอสเตอร์ผสมกับเส้นใยชนิดอื่นๆ เพื่อให้ผ้าทีได้จากเส้นใยผสมมีคุณสมบัติดีขึ้น ทั้งในด้าน ความสวยงาม ความคงทนและความเหมาะสมต่อประโยชน์ในการใช้สอย ผู้ที่ผลิตผืนผ้าจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์ และผ้าที่ผลิตจากเส้นใยผสมที่มีเสันใยโพลิเอลเตอร์อยู่ด้วยนั้น สามารถผลิตได้ทั้งผ้าเนื้อบางเบา จนถึงผ้าเนื้อหนาๆที่ใช้ตัดเสื้อ กระโปรง กางเกง และสูท เป็นต้น
รู้แล้วว่า..ผ้าจากผ้าโพลีเอสเตอร์ (polyester) มีคุณสมบัติเด่นที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วไป ทำให้หลายคนเลือกใส่และรวมไปถึงการเลือกใช้ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน ตุ๊กตาหรือชุดเครื่องนอนที่มีส่วนผสมจากเส้นใยPolyester แทนเส้นใยธรรมชาติ เพราะไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและอาการแพ้ที่เป็นสาเหตุของเชื้อโรคสะสม และสามารถทำความสะอาดง่าย แห้งเร็ว ทนทานแข็งแรงพร้อมรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
บทความจาก : www.jongstit.com
ไนลอน (Nylon)
เป็นเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) จัดอยู่ในกลุ่มพลาสติกวิศวกรรม คุณสมบัติที่สำคัญของ PA คือ เหนียว, แกร่ง, ขยายตัวได้มาก, ทนต่อสารเคมี, ทนต่อการขีดข่วน, การขัดสี, ทนต่อความร้อน, ดูดซึมน้ำได้มาก
ผ้าไนลอนมีคุณสมบัติที่ดี สำหรับให้ทำเสื้อผ้าเครื่องให้หลายชนิดใช้ได้ทนทานไม่ขาด ง่าย มักใช้ผสมกับเส้นใยชนิดอื่น ๆ เพื่อให้เกิดคุณสมบัติที่ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านคงขนาดและรูปร่าง ทนต่อการขัดสี แต่ไนลอนคุณสมบัติดูดความชื้นได้น้อย ดังนั้นถ้าต้องการนำมาตัดเสื้อผ้า ควรเลือกเนื้อผ้าที่ทอถักเนื้อหลวมไม่แน่นมากนัก เพื่อให้มีการระเหยอากาศเเละความชื้นจากร่างกายได้สะดวก เมื่อสวมใส่แล้วจะได้ไม่รู้สึกอับและร้อนมากนัก ผ้าไนลอนถักเป็นผ้าที่ใช้ได้ทนทาน มีการยืดหยุ่นรักษารูปร่าง ได้ดี เคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก จึงเหมาะสำหรับตัดชุดกีฬา สำหรับผ้าไนลอนที่ทอเนื้อเรียบแน่น เหมาะที่จะให้ทำผ้าร่มกันน้ำได้และถ้าตกแต่งเพื่อป้องกันน้ำซึมผ่านจะใช้ประโยชน์ได้ดี เส้นใยไนลอนเหมาะใช้ทำพรม หรือบุเครื่องเรือนทำเชือก การดูแลรักษาเส้นใยไนลอนทำได้ง่าย
ไม่ว่าจะผลิตเป็นผ้าหรือสิ่งอื่น ๆ สามารถใช้ได้กับสบู่่ ผงซักฟอก สารฟอกขาว ซักด้วยวิธีการซักเปียกแบบธรรมดา แต่ไม่ควรตากผ้าไนลอนกับแสงแดดนาน ๆ เพราะสีจะซีดง่ายและเสื้อผ้าจะลดความแข็งแรงลง
บทความจาก : www.ruedee.com
สแปนเด็กซ์ (Spandex)
ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex) หลายคนคงสงสัยว่ามันคือผ้าอะไร คือ กางเกงเลกกิ้ง ที่เราใส่กันนั่นเอง ผ้ายืดมากๆ ใส่สบายสุดๆ พ่อแม่เลยชอบให้ลูกใส่เลกกิ้ง เพราะดีไซน์สวยสีสดใส สกรีนลายการ์ตูนต่างๆ ใส่กับเสื้อกล้ามก็ดี เสื้อยืดก็ได้ เป็นผ้าใยยางสังเคราะห์ รู้จักกันในนามของ Lycra สามารถยืดได้ถึง 6-7 เท่าของความยาวเดิม ทนทานต่อแรงดึงได้สูง มีคุณสมบัติ น้ำหนักเบา ยืดหยุ่นได้ดี เมื่อสวมแล้วสามารถยืดออกได้ถึง 500% และสามารถคืนตัวกลับสภาพเดิมระบาเหงื่อได้ดีอีกด้วย
คุณสมบัติของผ้า spandex
โครงสร้างที่เป็นใยธรรมชาติ ทำให้มีการซึมซับของเหลวเช่นเหงื่อได้ดี เนื้อผ้าจะนุ่มไม่มีความกระด้างและมีการยืดหยุ่นได้ดีเป็นเส้นด้ายที่มีคุณสมบัติที่เมื่อยืดแล้วจะสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ โดยไม่เสียรูปทรง เมื่อนำมาผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่ม ทำให้เสื้อผ้าที่ผลิตได้มีความกระชับ นุ่ม สวมใส่สบาย ทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษา
ประโยชน์ของเส้นใยสแปนเด็กซ์นั้นใช้ทำเป็นส่วนหนึ่งของชุดชั้นในสตรี ชุดอาบน้ำ ขอบถุงเท้า ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ต้องการให้มีการยืดกระชับ เช่น ผ้าพันข้อเท้าและหัวเข่า
ผ้าพันกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ชื่อการค้าของเส้นใยสแปนเด็กซ์ ได้แก่ Lycra, Numa, Glospan, Unel, Duraspan, Estane V.C.,
lnterpan & Fulflex
บทความจาก : http://www.charactersstudio.com
เรยอน (Rayon)
ผ้า Rayon เป็นเส้นใยเซลลูโลสสังเคราะห์หรือเซลลูโลสที่นำมาผลิตขึ้นใหม่ (Regenerated cellulose) รู้จักกันในชื่อว่าไหมเทียม ต่อมาภายหลังเรียกว่า เรยอน และได้รับการปรับปรุงคุณภาพ ให้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ เส้นใยเรยอนถูกคิดประดิษฐ์ขึันโดย นายโรเบิร์ท ฮุท (Robert Hooke) ซึ่งได้บันทึกไว้ในหนังสือ Micrographia แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่ายังมีวิธีที่จะคิดประดิษฐ์ เส้นใยให้เหมือนใยไหมได้
ข้อได้เปรียบที่สำคัญของเรยอน ก็คือ มีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างถูก ดังนั้นจึงสามารถผลิตเลียนแบบเส้นใยอื่นได้ดี มักนิยมมาผสมกับเส้นใยอื่น ช่วยทำให้ผ้ามีราคาถูกลง สวยงาม นุ่มขึ้น และเมื่อนำมาผสมกับผ้าคอตตอนและโพลีเอสเตอร์แล้ว จะมีความยืดหยุ่น มีสปริง ใส่สบาย เบาบาง ราวกับซีทรู เหมาะกับอากาศร้อนๆอย่างบ้านเรามากๆค่ะ ในเมืองไทยเรามักจะรู้จักในชื่อ เสื้อยืดผ้าเรยอง หรือ เสื้อผ้าทราย Rayon นั่นเอง